สถิติน่าสนใจเรือแตกหักสิงห์ชิงเจ้ายุโรป
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เตรียมเปิดศึก เชลซี ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ วันเสาร์นี้ โดยมีสถิติและข้อมูลที่น่าสนใจก่อนลงสนามดังนี้
∎ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลุ้นแชมป์สมัยแรกจากการเข้าชิงชนะเลิศครั้งแรก ขณะที่ เชลซี เข้าชิงชนะเลิศเป็นครั้งที่ 3 ได้แชมป์มาแล้ว 1 ครั้งในปี 2012 ส่วนอีกครั้งได้รองแชมป์ในปี 2008
∎ แมนฯ ซิตี้ เป็นทีมจากอังกฤษทีมที่ 9 ที่เข้าชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก/ยูโรเปี้ยน คัพ ต่อจาก แมนฯ ยูไนเต็ด, น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์, แอสตัน วิลล่า, ลิเวอร์พูล, ลีดส์ ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล, เชลซี และ สเปอร์ส โดย แมนฯ ยูไนเต็ด, ฟอเรสต์, วิลล่า และ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ได้จากการเข้าชิงฯ ครั้งแรก
∎ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 ที่ทีมจากประเทศเดียวกันเข้าชิงชนะเลิศกันเอง ก่อนหน้านี้มีทีมจากสเปนชิงฯ กันเอง 3 ครั้ง ทีมจากอังกฤษ 2 ครั้ง และทีมจากเยอรมัน 1 ครั้ง
∎ ทั้งสองทีมเคยพบกันในฟุตบอลยุโรปเพียงครั้งเดียวในปี 1971 ในศึกคัพ วินเนอร์ คัพ รอบรองชนะเลิศ โดย เชลซี เอาชนะไป 1-0 ทั้งสองนัด ก่อนคว้าแชมป์ด้วยการชนะ เรอัล มาดริด ในรอบชิงชนะเลิศ
∎ ทั้งสองทีมเคยลงเล่นในสนาม เอสดาดิโอ โด ดราเกา รังเหย้าของ เอฟซี ปอร์โต้ ที่ใช้จัดรอบชิงฯ มาแล้วในฤดูกาลนี้ โดย แมนฯ ซิตี้ เจอกับ ปอร์โต้ ในรอบแบ่งกลุ่มก่อนเสมอกันไป 0-0 ส่วน เชลซี บุกชนะ ปอร์โต้ ได้ 2-0 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก
∎ แมนฯ ซิตี้ และ เชลซี เสียประตูทีมละ 4 ประตูเท่ากันตลอดเส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศ และเป็นคู่ชิงฯ ที่เสียประตูน้อยสุดนับตั้งแต่ บาร์เซโลน่า (4 ประตู) กับ อาร์เซน่อล (2 ประตู) ในฤดูกาล 2005/06
∎ แมนฯ ซิตี้ เป็นทีมที่ 3 ใน 3 ปีติดต่อกันที่เข้าชิงชนะเลิศครั้งแรกต่อจาก สเปอร์ส (2019) และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (2020) ซึ่งทั้งสองทีมลงเอยด้วยความปราชัย
∎ เชลซี เป็นฝ่ายเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ได้ตลอด 2 นัดหลังสุดที่เจอกันซึ่งเป็นการคุมทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล โดยก่อนหน้านี้ ทูเคิ่ล ไม่เคยคุมทีมดวลกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แม้แต่ครั้งเดียว
∎ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะคุมทีมลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งที่ 3 ในชีวิต โดย 2 ครั้งแรกทำได้กับ บาร์เซโลน่า ในปี 2009 และ 2011 ซึ่งคว้าแชมป์ได้ทั้งสองครั้งและเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งสองครั้ง
∎ หากคว้าแชมป์ได้ เป๊ป จะเป็นกุนซือคนที่ 3 ต่อจาก คาร์โล อันเชล็อตติ (2003, 2007, 2014) และ ซีเนดีน ซีดาน (2016, 2017, 2018) ที่ได้แชมป์ 3 สมัย
∎ โธมัส ทูเคิ่ล เป็นกุนซือคนแรกที่พาสองสโมสร (เปแอสเช 2020 และ เชลซี 2021) เข้าชิงชนะเลิศ 2 ปีติดต่อกัน และหากลงเอยด้วยความปราชัยอีกก็จะเป็นคนที่ 3 ต่อจาก มาร์เชลโล่ ลิปปี้ (ยูเวนตุส 1997, 1998) และ เอ็คตอร์ กูเปร์ (บาเลนเซีย 2000, 2001) ที่คุมทีมแพ้ในรอบชิงฯ 2 ปีติดต่อกัน
∎ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เคยคุมทีมแพ้ เชลซี 7 ครั้ง มากกว่าทุกทีมในอาชีพกุนซือของตัวเอง
∎ ฟิล โฟเด้น (21 ปี), จอห์น สโตนส์ (28 ปี) และ ไคล์ วอล์คเกอร์ (31 ปี) เพิ่งฉลองวันเกิดพร้อมกันเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา
∎ ฟิล โฟเด้น เตรียมทำสถิติแข้งอังกฤษอายุน้อยสุดที่ลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อจาก เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (19 ปี 231 วัน) และ โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ (20 ปี 123 วัน)
∎ เอดูอาร์ เมนดี้ มีลุ้นเป็นผู้รักษาประตูจากแอฟริกาคนแรกที่ลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หากได้ลงสนาม โดยฤดูกาลนี้เขาเฝ้าเสาให้ เชลซี 11 นัด สามารถเก็บคลีนชีตได้ถึง 9 นัด เสียไปเพียง 2 ประตู และมีเปอร์เซ็นต์เซฟดีสุดในรายการที่ 90.6 เปอร์เซ็นต์
∎ ติอาโก้ ซิลวา จะเป็นนักเตะคนที่ 5 ที่ได้ลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สองปีติดต่อกันกับสองสโมสรหลังเคยได้เล่นในปีก่อนกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ส่วน 4 คนก่อนหน้านี้คือ มาร์กแซล เดอไซญี่ (มาร์กเซย 93 และ มิลาน 94), เปาโล ซูซ่า (ยูเวนตุส 96 และ ดอร์ทมุนด์ 97), ซามูแอล เอโต้ (บาร์เซโลน่า 09 และ อินเตอร์ มิลาน 10) และ อัลบาโร่ โมราต้า (แอต.มาดริด 14 และ ยูเวนตุส 15)
∎ อิลคาย กุนโดกัน เป็นนักเตะแมนฯ ซิตี้ คนเดียวที่เคยเล่นนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก ตอนอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ แพ้ บาเยิร์น 1-2 ปี 2013 โดยเจ้าตัวเป็นคนยิงจุดโทษให้ทัพเสือเหลืองด้วย
TH SPORTเว็บไซต์ข่าวกีฬา อัพเดทข่าวฟุตบอลต่างประเทศทุกวันทุกเวลา