อิตาลีแม่นโทษดับสเปนผงาดชิงยูโรทีมแรก
อิตาลี ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศยูโร 2020 ได้แบบที่ต้องลุ้นถึงฎีกาที่ดวลจุดโทษชนะ สเปน ทำให้ได้เข้าไปรอพบผู้ชนะระหว่าง อังกฤษ กับ เดนมาร์ก
ฟุตบอลยูโร 2020 รอบรองชนะเลิศ
อิตาลี 1 - สเปน 1
(ต่อเวลา 120 นาทีเสมอ 1-1, อิตาลี ชนะจุดโทษ 4-2)
สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม, ลอนดอน
อิตาลี ส่ง เอแมร์ซอน พัลเมียรี่ ลงเล่นแทน เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า ที่เจ็บ ส่วนตำแหน่งอื่นเหมือนเดิม ขณะที่ สเปน ดร็อป อัลบาโร่ โมราต้า เป็นเพียงสำรองและเลือกใช้ มิเกล โอยาร์ซาบาล ขยับไปเล่นหน้าเป้าแบบ "false 9"
เริ่มเกมมาไม่กี่นาที อิตาลี ได้ลุ้นก่อนเมื่อ เอแมร์ซอน แทงบอลให้ มาร์โก แวร์รัตติ หลุดเข้าไปยิงบอลชนเสา แต่ว่าล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
สเปน เริ่มครองเกมได้ก่อนมีโอกาสในนาที 15 จากการล็อกยิงหน้าเขตโทษของ เฟร์ราน ตอร์เรส แต่บอลถากเสาออกหลังไป
นาที 25 กระทิงดุหาโอกาสอีกจากการบีบไล่บอลจนอิตาลีเปิดพลาดก่อนจบที่การยิงของ ดานี่ โอลโม่ ที่ติดบล็อกจังหวะแรกและได้ซ้ำด้วยขวา ทว่า จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ซูเปอร์เซฟช่วยอิตาลีเอาไว้ได้
สเปน หาโอกาสได้ต่อเนื่อง นาที 33 โกเก้ จ่ายให้ ดานี่ โอลโม่ ยิงหน้าเขตโทษ แต่ก็ไม่เข้ากรอบ
ท้ายครึ่งแรก อิตาลี ตอบโต้บ้าง ลอเรนโซ่ อินซินเย่ หักข้อให้ เอแมร์ซอน พัลเมียรี่ เติมขึ้นมายิงมุมแคบด้วยซ้าย แต่บอลเหมือนแฉลบเสาออกหลังไป จากนั้นจบครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0
เริ่มครึ่งหลังยังเป็น สเปน ที่หาโอกาสได้ในนาที 53 จากการลุยทางขวาของ มิเกล โอยาร์ซาบาล ก่อนไหลให้ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ซัดด้วยขวาหน้าเขตโทษ แต่บอลเฉียดคานออกหลังไป
อิตาลี มีลุ้นเช่นกันในนาทีถัดมา นิโคโล่ บาเรลล่า ไหลให้ เฟเดรีโก้ เคียซ่า โยกแล้วยิงผ่าน จอร์ดี้ อัลบา บอลเข้ากรอบแต่ยังไม่แรงพอที่จะผ่านมือ อูไน ซีม่อน
อิตาลี ที่เกมครึ่งหลังดีขึ้นมาก เป็นฝ่ายนำ 1-0 ในนาที 60 จากการออกบอลของ ดอนนารุมม่า ไปถึง นิโคโล่ บาเรลล่า ต่อขึ้นทางซ้ายให้ ลอเรนโซ่ อินซินเย่ แทงตัดแนวรับกะให้ อิมโมบิเล่ ได้ยิงแต่มีตัวสไลด์บอลได้ ทว่า เฟเดรีโก้ เคียซ่า ตามไปเก็บตกก่อนดึงเข้าขวาปั่นบอลระยะไกลเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม
สเปน แก้เกมทันทีส่งหน้าเป้าธรรมชาติอย่าง อัลบาโร่ โมราต้า ลงสนามแทน เฟร์ราน ตอร์เรส
นาที 65 โกเก้ หยอดให้ โอยาร์ซาบาล วิ่งสอดมาโขกโล่งๆ แต่สะบัดไม่โดนบอล ทำให้พลาดโอกาสอย่างน่าเสียดาย
เกมเพรสซิ่งของอิตาลีได้ผลบีบให้สเปนจ่ายบอลพลาดกันเองในนาที 80 ก่อนเป็น โดเมนิโก้ เบร์ราร์ดี้ ได้ยิงด้วยซ้าย แต่ว่าติดเซฟของ ดอนนารุมม่า
ทว่า สเปน ที่เกมไม่ดีมากนัก กลับสามารถตีเสมอ 1-1 ได้ในนาทีถัดมา โมราต้า ได้บอลเลี้ยงจี้ก่อนจ่ายให้ โอลโม่ ที่ดึงรอจังหวะก่อนไหลคืนให้ โมราต้า หลุดเดี่ยวก่อนยิงด้วยซ้ายส่งบอลเบียดเสาเข้าไปอย่างเด็ดขาด
จากนั้นทั้งสองทีมต่างพยายามทำประตูเอาชนะให้ได้ แต่ไม่เป็นผลทำให้จบ 90 นาทีเสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษ
ช่วงต่อเวลานาที 98 สเปน เกือบได้จากฟรีคิกที่ได้ยิงสองจังหวะจาก โอลโม่ และ โมราต้า แต่จังหวะสุดท้ายแฉลบ บุสเก็สต์ ถากเสาออกหลังไป
นาทีที่ 110 อิตาลี ส่งบอลตุงตาข่ายได้จากจังหวะที่ คิเอลลินี่ สาดบอลโด่งไปให้ เบร์ราร์ดี้ หลุดไปตวัดยิงด้วยซ้ายส่งบอลเข้าประตู ทว่าล้ำหน้าไปก่อน
จากนั้นไม่มีฝ่ายใดยิงได้ ทำให้จบ 120 นาทีเสมอกัน 1-1 ต้องดวลจุดโทษซึ่งปรากฏว่า อิตาลี ยิงได้แม่นยำกว่าเอาชนะไป 4-2 โดย 2 คนที่ยิงพลาดของสเปนคือ ดานี่ โอลโม่ และ อัลบาโร่ โมราต้า ทำให้คนสุดท้ายไม่ได้ยิง และส่งผลให้ทัพอัซซูรี่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปรอพบผู้ชนะระหว่าง อังกฤษ กับ เดนมาร์ก
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อิตาลี : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า - โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, เอแมร์ซอน พัลเมียรี่ - นิโคโล่ บาเรลล่า, จอร์จินโญ่, มาร์โก แวร์รัตติ - เฟเดรีโก้ เคียซ่า, ชิโร่ อิมโมบิเล่, ลอเรนโซ่ อินซินเย่
สเปน : อูไน ซีม่อน - เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, เอริก การ์เซีย, เอเมอริค ลาปอร์กต์, จอร์ดี้ อัลบา - ฆอร์เค่ เรซูร์เรกซิออน โกเก้, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, เปโดร กอนซาเลซ โลเปซ เปดรี้ - เฟร์ราน ตอร์เรส, มิเกล โอยาร์ซาบาล, ดาเนียล โอลโม่
ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ บริช (เยอรมัน)
TH SPORTเว็บไซต์ข่าวกีฬา อัพเดทข่าวฟุตบอลต่างประเทศทุกวันทุกเวลา