อิตาลีดวลโทษดับสิงโตคว้ายูโรสมัย2

ฟุตบอล ยูโร 2020

รอบชิงชนะเลิศ

อิตาลี 1 - อังกฤษ 1

(อิตาลี ชนะจุดโทษ 3-2)

สนาม : เวมบลีย์

เริ่มเกมมาเพียง 2 นาที อังกฤษ ออกนำ 1-0 แฮร์รี่ เคน ป้ายออกทางขวาให้ คีแรน ทริปเปียร์ เติมสูงก่อนจะบรรจงเปิดเข้าเขตโทษไปเสาไกล ลุค ชอว์ สอดมายิงแบบไม่จับส่งบอลเช็ดเสาเข้าประตูไป

รูปเกมถือว่าสูสีและค่อยๆ เป็น อิตาลี ที่ครองบอลมากกว่าพยายามหาช่องเข้าทำเอาคืน นาทีที่ 35 เฟเดริโก้ เคียซ่า ลากมาเองจากกลางสนามก่อนหนีตัวประกบยิงหลุดเสานิดเดียว

สิงโตคำราม พอใจกับการขึงเกมรับโดยอาศัยขังหวะฉาบฉวยเล่นงานทั้งการโยนยาวและต่อเกมขึ้นมา ซึ่งในช่วงทดเวลาครึ่งแรก มาร์โก แวร์รัตติ กองกลางอัซซูรี่พลิกตัวยิงแต่บอลเบาเกินไปเข้ามือ จอร์แดน พิคฟอร์ด

ครึ่งหลัง อิตาลี ได้ฟรีคิกระยะหวังผลบริเวณหัวกะโหลก แต่ทาง ลอเรนโซ่ อินซินเย่ ปั่นไม่ตรงกรอบ

ถัดมานาทีที่ 56 สิงโตคำราม ได้ฟรีคิกทางซ้าย ลุค ชอว์ เปิดมาให้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ขึ้นโขกแต่บอลลอยข้ามคาน

นาทีที่ 62 เป็นโอกาสของ อัซซูรี่ เมื่อทาง เฟเดริโก้ เคียซ่า หาช่องยิงหน้าเขตโทษบอลพุ่งเรียดแต่ทาง จอร์แดน พิคฟอร์ด ล้มตัวัดออกมาได้

อิตาลี บดอยู่นานก่อนจะตีเสมอในนาที 67 จากเตะมุมทางขวาเปิดมาเสาแรก ไบรอัน คริสตานเต้ เช็ดมาเสาไกลให้ มาร์โก แวร์รัตติ โขกติดเซฟ จอร์แดน พิคฟอร์ด ปัดบอลชนเสาเข้าทาง เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ยิงจ่อๆ ไม่พลาด 1-1

ขุนพลอัซซูรี่คึกคักกว่าเดิมและเดินหน้ากดดันต่อเนื่อง นาทีที่ 74 โบนุชชี่ วางยาวไปให้ โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ สอดไปยิงแบบไม่จับแต่บอลหลุดกรอบน่าเสียดาย

จบ 90 นาทีเสมอ 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที

ช่วงต่อเวลานาทีที่ 96 สิงโตคำราม ได้เสียวเมื่อทาง แคลวิน ฟิลลิปส์ สับไกนอกกรอบเขตโทษแต่บอลหลุดเสาไกลนิดเดียว

นาทีที่ 104 อิตาลี สมควรเฮจริงๆ เมื่อทาง เอแมร์ซอน หลุดมาทางซ้ายก่อนปาดมาหน้าประตู อันเดรีย เบล็อตติ ชาร์จไม่โดนก่อนที่ จอร์แดน พิคฟอร์ด ทุบทิ้งออกไปได้

ถัดมานาทีที่ 107 อัซซูรี่ ได้ลุ้นอีกครั้ง หนนี้เป็น เฟเดริโก้ แบร์นาร์เดสคี่ สับฟรีคิกติดเซฟ จอร์แดน พิคฟอร์ด รับกระฉอกก่อนตามไปเก็บเข้าซ้อง

จบ 120 นาทีเสมอ 1-1 ต้องดวลจุดโทษตัดสินปรากฏว่าเป็น อิตาลี เอาชนะไปด้วยสกอร์ 3-2 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

อิตาลี: จานลุยจิ ดอนนารุมม่า - โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, เอแมร์ซอน - นิโคโล่ บาเรลล่า, จอร์จินโญ่, มาร์โก แวร์รัตติ - เฟเดริโก้ เคียซ่า, ชิโร่ อิมโมบิเล่, ลอเรนโซ่ อินซินเย่

อังกฤษ: จอร์แดน พิคฟอร์ด - ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์ - คีแรน ทริปเปียร์, แคลวิน ฟิลลิปส์, เดแคลน ไรซ์, ลุค ชอว์ - เมสัน เมาท์, ราฮีม สเตอร์ลิง - แฮร์รี่ เคน

ผู้ตัดสิน : บียอร์น ไคเปอร์ส (ฮอลแลนด์)