สิงโตรอดตายได้เคนซัดโทษท้ายเกมเจ๊าเบียร์1-1

เยอรมัน เจ้าถิ่นสลับส่ง ไค ฮาแวร์ตซ์ ยืนหน้าเป้า ส่วน อังกฤษปรับหลายจุดจากเกมแพ้ ฮังการี 0-1 โดยได้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กลับมาประสานงานเกมรุกร่วมกับ แฮร์รี่ เคน 

โอกาสลุ้นครั้งแรกในเกมเป็นของอังกฤษในนาที 7 ที่ แฮร์รี่ เคน ได้บอลตรงเขตโทษฝั่งขวาก่อนหาช่องยิงเต็มข้อ ทว่าตรงตัว มานูเอล นอยเออร์ ที่รับเอาไว้ไม่พลาด

จากนั้นนาที 11 อังกฤษ ต้องเปลี่ยนตัวคนแรกเมื่อ แคลวิน ฟิลลิปส์ บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหวต้องส่ง จู๊ด เบลลิงแฮม ลงสนาม

นาที 23 เยอรมัน ส่งบอลตุงตาข่ายได้จากจังหวะวางยาวของ นิโค่ ชล็อตเทอร์เบ็ค ที่ โยนาส โฮฟมันน์ ได้หลุดเดี่ยวไปยิงสวนตัว จอร์แดน พิคฟอร์ด ทว่าลูกนี้ถูกจับล้ำหน้า

ท้ายครึ่งแรก อังกฤษ มีลุ้นจะแจ้งสองครั้งจาก บูคาโย่ ซาก้า คนเดียวทั้งยิงด้วยขวาในเขตโทษติดเซฟ และอีกครั้งยิงไกลหน้าเขตโทษ บอลพุ่งถากเสาออกหลังไปนิดเดียว ทำให้จบ 45 นาทีแรกเสมอกัน 0-0

ครึ่งหลังนาที 50 เจ้าถิ่นได้เฮลั่นกับประตูออกนำ 1-0 โยชัว คิมมิช จ่ายเข้าช่องให้ โยนาส โฮฟมันน์ จับแล้วหมุนตัวยิงด้วยขวาในเขตโทษ พิคฟอร์ด ปัดโดน แต่ก็เอาไม่อยู่ 

อังกฤษ ได้ลุ้นตีเสมอในนาที 53 เมสัน เมาน์ท สบโอกาสส่องไกลด้วยขวาหน้าเขตโทษ นอยเออร์ ต้องออกแรงทุบทิ้ง

เยอรมัน เกือบนำเพิ่มในนาที 70 ดาวิด เราม์ เปิดบอลจากซ้ายเลยไปเสาไกลให้ โธมัส มุลเลอร์ ตั้งเท้ายิงเน้นๆ ทว่า พิคฟอร์ด ปัดมือเดียวก่อนบอลจะเบียดเสาแรกเข้าไป

อังกฤษ น่าจะตีเสมอได้สุดๆ ในนาที 76 แจ็ค กรีลิช ที่ลงมาเป็นสำรอง เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเลยไปเสาไกลให้ แฮร์รี่ เคน ล้มตัวยิงจ่อๆ มานูเอล นอยเออร์ โชว์ซูเปอร์เซฟบล็อกบอลเอาไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ

ท้ายเกมนาที 87 อังกฤษ มาได้จุดโทษหลังผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์มองว่า นิโค่ ชล็อตเทอร์เบ็ค ไปทำฟาวล์ด้านหลังใส่ แฮร์รี่ เคน และเป็น เคน รับหน้าที่ยิงเข้าไปไม่พลาด นอยเออร์ พุ่งผิดทาง

จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นอีก ทำให้จบเกมทั้งสองทีมเสมอกันไป 1-1 เยอรมัน มีเพิ่มเป็น 2 คะแนน ส่วนอังกฤษ เก็บคะแนนแรกได้หวุดหวิด