ลีกใหญ่ดี๊ด๊ายูฟ่าเพิ่มโควตาชปล.

แถลงอย่างเป็นทางการณ์เมื่อ 27 ก.พ.ทีผ่านมา โดยเรื่องที่เป็นพาดหัวก็คือ ทีมซึ่งจบฤดูกาล 2017-18 ด้วยการเป็น 4 อันดับแรกของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, ลา ลีกา สเปน, บุนเดสลีกา เยอรมัน และ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี จะการันตีสิทธิ์เล่นกรุ๊ป สเตจ 

ก่อนหน้านี้ใน พรีเมียร์ลีก, ลา ลีกา และ บุนเดสลีกา นั้น มีแค่ 3 อันดับแรกในลีกที่ได้เข้ารอบแบ่งกลุ่มยูซีแอล แบบอัตโนมัติ 

ส่วน อันดับ# 4 ของทั้งสามลีกต้องไปเล่น รอบคัดเลือก รอบเพลย์ออฟ ขณะที่ใน กัลโช่ เซเรีย อา มีเพียง 2 อันดับแรกที่จะได้เล่นรอบแบ่งกลุ่มของเกมชิงถ้วย 'บิ๊กเอียร์' ขณะที่อันดับ# 3 ต้องไปไปเล่นรอบคัดเลือก รอบเพลย์ออฟ

อเล็กซานเดอร์ เซเฟริน ปธ.ยูฟ่า คนปัจจุบัน

แต่ล่าสุด ยูฟ่า ประกาศถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นทางการแล้ว โดยท็อปโฟร์ของลีกจากชาติที่มีค่าสัมประสิทธิ์สูงสุด 4 อันดับแรกของ ยูฟ่า จะได้สิทธิ์เล่นรอบแบ่งกลุ่มของ ชปล. แบบอัตโนมัติ 

สำหรับซีซั่น 2018-19 นั้น มันจะวัดค่าสัมประสิทธิ์จากตอนจบฤดูกาล 2016-17 และ 4 ชาติที่มีค่าสัมประสิทธิ์สูงสุดตอนจบซีซั่นดังกล่าวคือ อังกฤษ, สเปน, เยอรมนี และ อิตาลี  

ทั้งนี้ ชาติที่มีค่าสัมประสิทธิ์สูงสุดเป็นอันดับ 5 กับ 6 จะได้สิทธิ์ส่งทีมลงเล่น 2 ทีม ขณะที่ชาติที่มีค่าสัมประสิทธิ์สูงสุดเป็นอันดับ 7-10 ได้สิทธิ์ส่งทีมลงเล่นลีกละ 1 ทีม 

นอกจากนี้ แชมป์เก่าของ แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ ยูโรปา ลีก ก็จะได้ลงเล่นรอบแบ่งกลุ่มของ ยูซีแอล แบบอัตโนมัติเช่นกัน โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้ทีมที่ได้เล่นรอบแบ่งกลุ่มฤดูกาล แบบอัตโนมัติ จะเพิ่มเป็น 26 ทีม จากเดิมที่มี 22 ทีม

หลักการใหม่ของ ยูฟ่า เอื้อให้กับทีมจากลีกระดับท็อป 4 ยุโรป

ยูฟ่า ยังประกาศด้วยว่านับตั้งแต่ซีซั่นหน้าเป็นต้นไป แชมเปี้ยนส์ ลีก จะเริ่มเตะกัน 2 เวลา ประกอบด้วย 17.55 น. กับ 20.00 น. (ตามเวลากลางอังกฤษ) หรือก็คือคล้ายกับในศึก ยูโรปา ลีก จากเดิมที่แต่ละคู่มักจะเริ่มเตะกันในเวลา 19.45 น.  

สำหรับใน ยูโรปา ลีก นั้น 2 ทีมจากชาติที่มีค่าสัมประสิทธิ์สูงสุด 5 อันดับแรกของ ยูฟ่า จะได้สิทธิ์เล่นรอบแบ่งกลุ่มของ ยูโรปา ลีก แบบอัตโนมัติ โดยในซีซั่น 2018-19 นั้น ลีกที่จะได้สิทธิ์ส่งทีมลงเล่น ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม แบบอัตโนมัติ 2 ทีมคือ พรีเมียร์ลีก, ลา ลีกา, บุนเดสลีกา, กัลโช่ เซเรีย อา และ ลีก เอิง

ขณะเดียวกัน ในรอบคัดเลือกของทั้ง แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ยูโรปา ลีก มันก็จะมีการเพิ่มการแข่งรอบคัดเลือก ขั้นต้น เข้าไปด้วย โดยในรอบนี้จะมีรอบรองชนะเลิศกับรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งทีมที่ชนะในรอบนี้จะได้เข้ารอบคัดเลือก รอบแรก ขณะที่ทีมที่ตกรอบคัดเลือกของ แชมเปี้ยนส์ ลีก จะได้ไปแข่งรอบคัดเลือกของ ยูโรปา ลีก ต่อ