คาห์นย้ำปรัชญาบาเยิร์นไม่จ่ายค่าตัวนักเตะสูงเกินจริง
โอลิเวอร์ คาห์น อธิบายถึงปรัชญาการบริหารทีมของ บาเยิร์น มิวนิค จนกลายเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จทั้งในและนอกสนามโดยปราศจากหนี้สิน
โอลิเวอร์ คาห์น ซีอีโอของ บาเยิร์น มิวนิค เน้นย้ำถึงปรัชญาของทีมดังแคว้นบาวาเรียว่าจะไม่จ่ายค่าตัวนักเตะแพงเกินจริง รวมถึงกาอธิบายถึงการพยายามเข้าสู่ตลาดนักเตะอย่างชาญฉลาดสุดเท่าที่จะทำได้ ตามรายงานจาก 'เลกิ๊ป' เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
บาเยิร์น มิวนิค เคยจ่ายเงิน 80 ล้านยูโรเป็นค่าฉีกสัญญาของ ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ เพื่อดึงกองหลังชาวฝรั่งเศสจาก แอตเลติโก มาดริด มาเสริมแนวรับในช่วงซัมเมอร์ปี 2019 นั่นคือการทุ่มเงินสูงสุดเป็นสถิติสโมสรจนถึงปัจจุบัน ส่วนผู้เล่นที่มีค่าตัวแพงรองลงมาคือ มัทไธส์ เดอ ลิกต์ และ ลีรอย ซาเน่ แต่ค่าตัวของนักเตะทั้งสามรายยังไม่มากมายนักเมื่อเทียบกับการเซ็นสัญญากับผู้เล่นของสโมสรชั้นนำอื่นๆของยุโรป
นั่นมาจากปรัชญาของสโมสรที่ไม่ต้องการจ่ายค่าตัวนักเตะสูงเกินจริง แม้ว่าทีมเสือใต้จะแบกรับภาระค่าจ้างสูงกว่าสโมสรอื่นๆร่วมลีกก็ตาม แต่ภาพรวมของ บาเยิร์น มิวนิค ถือว่าเป็นแนวทางการทำธุรกิจที่ชาญฉลาดทั้งในและนอกสนาม
'นั่นคือปรัชญา เราใช้จ่ายสิ่งที่เราหามาได้เท่านั้น และการลงทุนด้วยเงินจำนวนมากกับนักเตะคนเดียวนั้นเป็นความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่เสมอ ทุกอย่างต้องทำอย่างชาญฉลาด นักเตะต้องเหมาะสมกับทีมของเรา ทั้งจากมุมมองทางกีฬาและเศรษฐกิจ' คาห์น ชี้แจง 'การมีดีเอ็นเอของ บาเยิร์น เป็นสิ่งที่สโมสรให้ความสำคัญมาก และมันเห็นได้ชัดเจนว่านักเตะมีหรือไม่มีมัน'
คาห์น ยังชี้แจงเกี่ยวกับการไม่ตัดสินใจแย่งเซ็นสัญญากับ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ก่อนดาวยิงชาวนอร์วีเจี้ยนจะย้ายจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปค้าแข้งกับ แมนฯซิตี้ ในช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้วด้วยค่าตัว 60 ล้านยูโร เนื่องจากมูลค่าแพ็จเกจสูงเกินไปสำหรับทีมเสือใต้
'สำหรับ ฮาแลนด์, แพ็คเกจรวม (ค่าฉีกสัญญา 60 ล้านยูโร, เงินค่าจ้างและโบนัส) น่าจะเป็นเงินก้อนโต บางครั้งมีช่วงเวลาที่คุณคิดว่าคุณตามไม่ทัน เราจะไม่ทำอะไรที่อาจเป็นอันตรายต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของสโมสร บาเยิร์น ไม่มีหนี้สิน มันเป็นปรัชญาของเรา และในระยะยาว มันยังเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันอีกด้วย'
TH SPORTเว็บไซต์ข่าวกีฬา อัพเดทข่าวฟุตบอลต่างประเทศทุกวันทุกเวลา