ประธานมาดริดร่วมต้านการเหยียดผิววินิซิอุส
ฟลอเรนตีโน่ เปเรซ พบปะพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับ วินิซิอุส จูเนียร์ ยืนยันการหนุนหลังแนวรุกชาวบราซิเลียนสำหรับการต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติและสีผิวที่แข้งวัย 22 ปีเผชิญอยู่ในปัจจุบัน
ฟลอเรนตีโน่ เปเรซ ประธานสโมสร เรอัล มาดริด ร่วมต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติและสีผิวที่ วินิซิอุส จูเนียร์ เผชิญในเกมกับ บาเลนเซีย เมื่อวันอาทิตย์ พร้อมเรียกร้องให้มีการปฏิรูปผู้ตัดสินใจเวลาเดียวกันด้วย ตามรายงานจากมาร์ก้าเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
ทัพ 'โลส บลังโกส' เริ่มเคลื่อนไหวนับตั้งแต่ วินิซิอุส ถูกเหยียดเชื้อชาติและสีผิวที่เมสตาย่าของ บาเลนเซีย เมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นครั้งที่ 10 ในฤดูกาลนี้ที่แนวรุกวัย 22 ปีต้องเผชิญปัญหาดังกล่าว โดยทีมชุดขาวออกแถลงการณ์ 2 ฉบับ และเริ่มดำเนินการทางกฎหมายเพื่อสืบสวนคดีนี้ และท่านประธานฟลอเรนตีโน่ยังได้พูดคุยกับ วินิซิอุส เพื่อแสดงการสนับสนุนแนวรุกชาวบราซิเลียนด้วย
'ในช่วงเวลาเหล่านี้ เราทุกคนต้องเรียกร้องให้มีความอดทนเป็นศูนย์ต่อการเหยียดเชื้อชาติ ความเกลียดกลัวชาวต่างชาติ และความเกลียดชัง เหตุการณ์แบบที่เราเจอในวันอาทิตย์ที่เมสตาย่าทำให้นักเตะที่น่าประทับใจอย่าง วินิซิอุส ต้องทนทุกข์ทรมาน เราจะไม่ยอมให้มีการเหยียดเชื้อชาติกับนักเตะของเราอีกต่อไป'
'วินิซิอุส เป็นเหยื่อ มันเป็นเรื่องน่าละอายที่บางคนต้องการเปลี่ยนเขาให้เป็นฝ่ายผิด เพราะการกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นดีที่สุดในโลก ดังที่ประธานาธิบดีบราซิล ลูล่า กล่าวไว้'
'ไม่, เราไม่สามารถทำอย่างนี้ต่อไปในฟุตบอลสเปน และคนที่ควรต่อต้านการกระทำเหล่านี้ด้วยการโต้ตอบที่รุนแรง คือคนที่ไม่สามารถปล่อยให้การกระทำที่ยอมรับไม่ได้เหล่านี้ดำเนินต่อไป ซึ่งทำลายภาพลักษณ์ฟุตบอลของเราในส่วนที่เหลือของโลก'
'ในการทำเช่นนี้ จะต้องมีการเปลี่ยนโครงสร้างผู้ตัดสินเพื่อไม่ให้เหยื่ออาชญากรต้องรับผิดชอบเหมือนที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ เรามีเครื่องมือที่ยอดเยี่ยม ซึ่งทำงานได้ดีมาก นั่นคือ วีเออาร์ เครื่องมือที่สามารถนำมาใช้ให้เกิดผลดี แต่ถูกใช้เพื่อเปลี่ยนเหยื่อให้กลายเป็นผู้กระทำผิด ดังที่เกิดขึ้นในวันอาทิตย์ และสิ่งนี้ทำให้เราต้องทนทุกข์ทรมานตลอดการแข่งขัน'
'สังคมที่เราอาศัยอยู่ไม่สมควรได้รับเหตุการณ์ที่เกิดซ้ำซากกับนักเตะของเรา กีฬาเป็นจุดนัดพบของค่านิยม'
จากการใช้คำว่าโครงสร้างของ ฟลอเรนตีโน่ บ่งบอกถึงการปฏิรูปในองค์กรเองและบางทีอาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงผู้นำ ซึ่งน่าจะเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองมากกว่า ส่วน คาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์ชาวอิตาเลียนอาจรู้สึกว่าวิธีการจัดการกับเรื่องนี้คือการคว่ำบาตรและมาตรการลงโทษที่รุนแรงมากกว่าเดิม
TH SPORTเว็บไซต์ข่าวกีฬา อัพเดทข่าวฟุตบอลต่างประเทศทุกวันทุกเวลา