เรือเฉือนอินเตอร์1-0ซิวชปล.สมัยแรกควบทริปเปิ้ลแชมป์

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

นัดชิงชนะเลิศ

แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ) 1 - อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) 0

สนาม : อาตาเติร์ก สเตเดี้ยม, อิสตันบูล, ตุรกี 

นัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก แมนฯ ซิตี้ ส่ง เควิน เดอ บรอยน์ และ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เป็นตัวหลักในเเกมรุก ส่วน อินเตอร์ มิลาน มี  เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ ล่าตาข่ายร่วมกับ เอดิน เชโก้ ที่ลงเจอทีมเก่า

เริ่มเกมมานาทีที่ 2 แมนฯ ซิตี้ ทักทายก่อนเมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ แทงให้ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ สอดไปตวัดยิงด้วยซ้ายข้ามคาน แต่ว่าจังหวะนี้ ฮาแลนด์ ถูกจับล้ำหน้าเสียก่อน

เรือใบมีลุ้นอีกครั้งเมื่อ แบร์นาร์โด้ ซิลวา เลี้ยงจี้ใส่ เฟเดรีโก้ ดิมาร์โก ก่อนโยกแล้วยิงด้วยซ้าย บอลเฉียดสามเหลี่ยมเสาไกลแบบได้เสียวสุดๆ 

อินเตอร์ มิลาน มีโอกาสสับไกลครั้งแรกในนาที 20 มาร์เซโล่ โบรโซวิช ได้วอลเลย์หน้าเขตโทษหลังบอลกระดอนเข้าทาง แต่ว่าซัดโด่งข้ามคานออกหลังไป

นาที 26 อินเตอร์ ได้ส้มหล่นเมื่อ เอแดร์ซอน ออกบอลไม่ดีเพื่อนเล่นต่อไม่ได้ บอลเข้าทาง นิโคโล่ บาเรลล่า ได้ยิงสวนระยะ 35 หลา แต่ว่าบอลไม่ตรงกรอบ เรือใบสีฟ้ารอดตัวไป

แมนฯ ซิตี้ เกือบนำในนาทีถัดมา เควิน เดอ บรอยน์ ไหลบอลให้ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ หลุดไปซัดด้วยซ้าย แต่มุมเหลือไม่มากทำให้ตรงตัว อ็องเดร โอนาน่า ที่ใช้มือซ้ายบล็อกบอลเอาไว้ได้

ผ่านมาครึ่งชั่วโมง เดอ บรอยน์ หาโอกาสยิงไกลหน้าเขตโทษ บอลแฉลบผู้เล่นอินเตอร์เล็กน้อย แต่ไม่ห่างตัว โอนาน่า ที่รับเข้าซอง จากนั้นเกมหยุดเพราะ เดอ บรอยน์ เจ็บ แต่สุดท้ายกลับมาลุยต่อได้

อย่างไรก็ตาม เดอ บรอยน์ ฝืนต่อได้เพียงไม่กี่นาทีก็ไม่ไหว ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกให้ ฟิล โฟเด้น ลงแทนในนาที 36 ช่วงเวลาไม่มีจังหวะลุ้นประตูกันอีกทำให้จบครึ่งแรกเสมอ 0-0

ครึ่งหลังนาที 59 อินเตอร์ เกือบนำก่อนเมื่อ แบร์นาร์โด้ ซิลวา คืนหลังแต่ มานูเอล อาคานจี ไม่ได้เล่นต่อ เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ จึงวิ่งถึงบอลก่อนได้ยิงมุมแคบ ทว่า เอแดอร์ซอน ปิดมุมได้ดีทำให้เซฟได้ และแมนฯ ซิตี้ โต้กลับทันทีจบที่ ฟิล โฟเด้น ควบบอลถึงหน้าเขตโทษก่อนถูก นิโคโล่ บาเรลล่า เบรกทำฟาวล์พร้อมกับรับใบเหลือง

ประตูแรกของเกมเกิดขึ้นจนได้และเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่ออกนำ 1-0 ในนาที 68 แบร์นาร์โด้ ซิลวา หลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนเปิดหักข้อแฉลบผู้เล่นอินเตอร์ บอลตกบริเวณใกล้จุดโทษ โรดรี้ วิ่งมายิงโล่งๆ ส่งบอลเบียดเสาเข้าไปอย่างแม่นยำ อ็องเดร โอนาน่า ได้แต่ยืนขาตายไม่สามารถเซฟได้

อินเตอร์ เกือบตีเสมอทันควันในอีก 3 นาทีถัดมา เดนเซล ดุมฟรีส์ โหม่งบอลให้ เฟเดรีโก้ ดิมาร์โก ได้โหม่งข้ามหัว เอแดร์ซอน แต่ว่าบอลชนคานอย่างจัง ดิมาร์โก ได้โหม่งซ้ำอีกทีแต่ดันไปติด โรเมลู ลูกากู ตัวสำรองที่ลงมาแทน เอดิน เชโก้

นาที 77 แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสอีกครั้ง โรดรี้ จ่ายบอลให้ ฟิล โฟเด้น พลิกได้สวยก่อนหลุดเข้าเขตโทษ แต่จังหวะยิงไม่ได้มุมมากนักทำให้ โอนาน่า เซฟเอาไว้ได้

ท้ายเกมนาที 82 แมนฯ ซิตี้ เปลี่ยนให้ ไคล์ วอล์คเกอร์ ลงมาแทน จอห์น สโตนส์ ที่เริ่มมีปัญหาบาดเจ็บ ขณะที่ อินเตอร์ ก็ส่ง เฮนทริค มคิทาร์ยาน และ ดานิโล่ ดัมโบรซิโอ ลงแทน ฮาคาน ชาลาโนลู และ มัตเตโอ ดาร์เมียน ในอีก 2 นาทีถัดมา

แมนฯ ซิตี้ รอดพ้นการเสียประตูอย่างน่าเหลือเชื่อในนาที 89 มาร์เซโล่ โบรโซวิช โยนบอลเข้าเขตโทษให้ โรบิน โกเซนส์ โหม่งชงให้ ลูกากู โขกเน้นๆ ระยะ 5 หลา เอแดร์ซอน ใช้ขาเซฟหวุดหวิดก่อนที่ รูเบน ดิอาส จะขวิดทิ้งออกหลังไปได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด

ช่วงเวลาที่เหลือ อินเตอร์ มิลาน ไม่สามารถตามตีเสมอได้ทำให้จบเกมเป็น แมนฯ ซิตี้ เอาชนะไปได้ 1-0 คว้าแชมป์สมัยแรกได้สำเร็จ และกลายเป็นทริปเปิ้ลแชมป์ด้วย

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 

แมนฯซิตี้ : เอแดร์ซอน - มานูเอล อาคานจี, รูเบน ดิอาส, นาธาน อาเก้  - จอห์น สโตนส์, โรดรี้ - แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์, อิลคาย กุนโดกาน, แจ็ค กรีลิช - เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ 

อินเตอร์ มิลาน : อ็องเดร โอนาน่า - มัตเตโอ ดาร์เมียน, ฟรานเชสโก้ อแชร์บี้, อเลสซานโดร บาสโตนี่ - เดนเซล ดุมฟรีส์, นิโคโล่ บาเรลล่า, มาร์เซโล่ โบรโซวิช, ฮาคาน ชาลาโนลู, เฟเดรีโก้ ดิมาร์โก - เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ, เอดิน เชโก้ 

ผู้ตัดสิน : ซีม่อน มาร์ชีเนียค (โปแลนด์)