เดลี่ เมล รายงานว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดนข้อกล่าวหากรณีปลอมแปลงเอกสารเงินสนับสนุนจำนวน 30 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่มีที่มาที่ไป
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2020 แมนฯ ซิตี้ แก้ข้อกล่าวหาผ่านทาง ยูเอฟ่า ว่าเงินจำนวน 15 ล้านปอนด์ที่สโมสรได้รับมาเป็นเพราะการถ่ายทำวิดิโอผ่าน YouTube โดยมีผู้จ้างจาก อาบู ดาบี มอบให้เมื่อปี 2012 และ 2013
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมการเงินของ ยูเอฟ่า สรุปว่าเงินจำนวนดังกล่าวมาจากเจ้าของสโมสรซึ่งมีกิจการโทรคมนาคมเป็นคนจ่ายเงินให้ ส่งผล แมนฯ ซิตี้ กระทำผิดเรื่องปลอมแปลงแหล่งที่มาของรายได้
ณ ตอนนั้น แมฯ ซิตี้ ถูกพบว่ามีความผิดฐานละเมิดกฎการเงินของ ยูเอฟ่า ระหว่างปี 2012 ถึง 2016 และโดนแบน 2 ปี กระนั้นทีมดังจากอังกฤษได้รับการคุ้มครองโดยคำสั่งศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา (CAS) ให้โทษแบนไม่มีผลและลดค่าปรับจาก 30 ล้านยูโรเหลือ 10 ล้านยูโร
กระนั้นความผิดของ ซิตี้ ยังคงออกมาต่อเนื่อง โดยเมื่อปีที่ผ่านมา พรีเมียร์ลีก ประกาศว่า เรือใบสีฟ้า มีความผิด 115 กระทงจากข้อหากระทำผิดทางการเงินตลอดระยะเวลา 9 ปี ซึ่งการตรวจสอบไล่มาจนถึงปี 2018
เดลี่ เมล อ้างข้อมูลจาก เดอะ ไทม์ส ว่าข้อกล่าวหาส่วนใหญ่เป็นการตรวจสอบการจ่ายเงินแบบผิดกฎและปลอมแปลงเอกสาร กระนั้นทาง ซิตี้ พร้อมสู้ทุกข้อกล่าวหา
ทั้งนี้ พรีเมียร์ลีก และ ยูเอฟ่า กำลังหาทางเล่นงาน แมนฯ ซิตี้ ที่หลบเลี่ยงช่องทางมาโดยตลอด แต่ถึงจะมีหลักฐานในการอัดฉีดเงินเข้าสโสรแบบผิดกฎกระนั้น เรือใบสีฟ้า หาทางแก้ต่างได้เสมอ
เดอะ ไทม์ส เสริมในจุดนี้ว่าจากการสอบถามทีมงานสร้างภาพยนตร์ได้รับการปฏิเสธเกี่ยวกับข้อมูลเงินทุนที่ได้รับมา และทางทีมสร้างขอเก็บไว้เป็นความลับ
สำหรับ พรีเมียร์ลีก และ ยูเอฟ่า มีกฎชัดเจนว่าแต่ละสโมสรมีข้อจำกัดในการเพิ่มเงินทุนเข้าไปในสโมสรและต้องแจ้งเรื่องอย่างชัดเจน ทว่ากรณีของ แมนฯ ซิตี้ มีการหลีกเลี่ยงด้วยการหาช่องทางเพื่อโยกเงินไปยังที่ต่างๆ ก่อนจะส่งเข้าสโมสรฟุตบอล
TH SPORTเว็บไซต์ข่าวกีฬา อัพเดทข่าวฟุตบอลต่างประเทศทุกวันทุกเวลา
