สนาม นวยโบ เมสตาย่า ที่ยุติการก่อสร้างตั้งแต่ปี 2009 จะต้องได้รับการอนุมัติให้ดำเนินการต่อจนเสร็จสิ้นเพื่อการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2030 ของ บาเลนเซีย ร่วมกับสองเมืองใหญ่อย่าง มาดริด และ บาร์เซโลน่า
เรเลโบ รายงานเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า สเปน และสหพันธ์ฟุตบอลเมืองกระทิงกำลังมองหาเมืองเจ้าภาพและสนามจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2030 ไม่อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยมี 3 เมืองใหญ่อย่าง มาดริด, บาร์เซโลน่า และ บาเลนเซีย ถูกเลือกในเบื้องต้น
มาดริด และ บาร์เซโลน่า เป็นสองเมืองใหญ่ของสเปนที่ถูกเลือกเป็นเจ้าภาพจาก 10-11 แห่งที่จะใช้จัดศึก เวิลด์ คัพ 2030 โดยมีสังเวียนอย่าง เอสตาดิโอ ซีบีตาส เมโตรโปลีตาโน่ และ เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ของนครมาดริด รวมถึง คัมป์ นู และอาจรวมถึง อาร์ซีดีอี สเตเดี้ยม ของ เอสปันญ่อล เป็นสนามแข่งขัน
ตามรายงานจาก เรเลโบ ระบุว่า บาเลนเซีย จะเป็นเมืองที่สามที่ RFEF เลือกเป็นเจ้าภาพร่วมกับ มาดริด และ บาร์เซโลน่า พวกเขาคาดหวังว่าจะยืนยันเรื่องนี้กับสโมสรและสภาเมืองบาเลนเซียในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งสภาเมืองและทีมค้างคาวจะต้องบรรลุข้อตกลงเรื่องเงินลงทุนสำหรับการวางแผนก่อสร้างสนาม เอสตาดิโอ เมสตาย่า แห่งใหม่ที่โครงการหยุดชะงักไประยะหนึ่งแล้ว เพื่อยืนยันว่าจะเริ่มต้นโครงการอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปี 2024 หลังการก่อสร้างที่เริ่มขึ้นในปี 2007 แต่หยุดนิ่งมาตั้งแต่ปี 2009
สำหรับสนาม นวยโบ เมสตาย่า จะมีความจุราว 70,000 คน แต่ข้อตกลงใหม่สามารถลดจำนวนลงเหลือ 66,000 คน พร้อมทางเลือกในการปรับปรุง ขณะที่แฟนบอล บาเลนเซีย กลุ่ม Libertad VCF กำลังล็อบบี้ไม่ให้อนุญาตให้มีการวางแผนใดๆเพิ่มเติม เว้นแต่ ปีเตอร์ ลิม เจ้าของสโมสรจะค้ำประกันธนาคารหรือตกลงที่จะจ่ายเงินทุนสำหรับงานนี้ด้วยตัวเอง
จากรายงานเผยว่า ลิม อาจทำข้อตกลงกับสภาเมือง โดย บาเลนเซีย คาดว่าจะมีงบประมาณอย่างน้อย 115-120 ล้านยูโร บวกกับเงินที่พวกเขาได้รับจากการขายที่ดินของสนามเมสตาย่าเก่า โดยที่มหาเศรษฐีชาวสิงค์โปร์ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเติม
TH SPORTเว็บไซต์ข่าวกีฬา อัพเดทข่าวฟุตบอลต่างประเทศทุกวันทุกเวลา
