:::     :::

ห้างยาเชือดไฟรบวร์ก2-1ทวงฝูงคืนอีกครั้ง

วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม 2566
366
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share

เลเวอร์คูเซ่น แซงหน้า บาเยิร์น มิวนิค กลับไปรั้งจ่าฝูงอีกครั้งหลังเปิดรังเอาชนะ ไฟรบวร์ก ไปได้ 2-1 ในเกมบุนเดสลีกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

เลเวอร์คูเซ่น กลับมาใช้งานชุดใหญ่เต็มสูบอีกครั้งหลังจากพักตัวหลักบางรายในถ้วยยุโรป แนวรุกเป็น 3 ตัวเก่ง โยนาส ฮอฟมันน์, โฟลเรียน เวียร์ทซ์ และ วิคเตอร์ โบนิเฟซ ส่วน ไฟรบวร์ก ที่ผ่านเกมยุโรปเช่นกันวาง  ลูคัส เฮอเลอร์ เป็นหน้าเป้า 

ครึ่งแรกเลเวอร์คูเซ่น เป็นฝ่ายบุกเข้าใส่ได้มากกว่าชัดเจนจากการครองบอลเกิน 70 เปอร์เซ็นต์ และมีโอกาสยิงทั้งหมด 12 ครั้ง และได้ประตูนำจากครั้งเดียวที่เข้ากรอบ

ประตูนำ 1-0 ของห้างยาเกิดขึ้นในนาที 36  โฟลเรียน เวียร์ทซ์ รับบอลจาก เยเรมี่ ฟริมปง ทางฝั่งซ้ายก่อนโชว์ทักษะลุยเดี่ยวเข้าเขตโทษโยกหลอกผู้เล่นทีมเยือนหลายสเต็ปก่อนดึงบอลเข้าซ้ายยิงมุมแคบเข้าเสาไกลอย่างสุดยอด

ครึ่งหลังนาที 60 วิคเตอร์ โบนิเฟซ มีจังหวะลักไกยิงไกลจากเส้นกลางสนามคล้าย แฮร์รี่ เคน ที่เพิ่งยิงให้ บาเยิร์น ได้ แต่ลูกยิงของ โบนิเซฟ ไม่แม่นยำมากพอหลุดกรอบออกหลังไป

ทว่าในนาทีเดียวกัน เลเวอร์ฯ ก็เอาประตูนำ 2-0 จนได้  โฟลเรียน เวียร์ทซ์ ลุยทางฝั่งซ้ายก่อนจิ้มบอลให้ โยนาส ฮอฟมันน์ จับแล้วตั้งป้อมซัดหน้าเขตโทษเต็มข้อ บอลพุ่งชนเสาเด้งโดนตัว โนอาห์ อาตูโบลู ย้อนเข้าประตูตัวเองไปอย่างโชคร้าย

ไฟรบวร์ก มีฮึดตีไข่แตกได้ในนาที 70 จากฟรีคิกเกือบสุดเส้นฝั่งซ้าย วินเชนโซ่ กรีโฟ่ เปิดเข้าไปหน้าประตู มานูเอล กุลเด้ สอดมาโขกเช็ดบางๆ เข้าไปเป็น 2-1

อีก 4 นาทีถัดมา เลเวอร์คูเซ่น เกือบยิงเพิ่มาเมื่อ โฟลเรียน เวียร์ทซ์ ที่เด่นมากในเกมนี้ได้บอลจาก โบนิเซฟ ก่อนเลี้ยงถึงหน้าเขตโทษแล้วยิงด้วยขวาเต็มแรง ทว่าบอลชนเสาเด้งออกหลังน่าเสียดาย

จากนั้นจบเกม เลเวอร์คูเซ่น เบียดชนะ ไฟรบวร์ก 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 25 คะแนน และแซง บาเยิร์น มิวนิค กลับไปรั้งจ่าฝูงอีกครั้ง 


TH SPORTเว็บไซต์ข่าวกีฬา อัพเดทข่าวฟุตบอลต่างประเทศทุกวันทุกเวลา

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด