นาเกลส์มันน์เปิดใจถึงช่วงเวลากับบาเยิร์น

ยูเลียน นาเกลส์มันน์ เทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมนีเปิดใจกับ 'Der Spiegel' สื่อเมืองเบียร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับช่วงเวลาของเขาที่ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งทำงานกับทีมดังแคว้นบาวาเรียราว 18 เดือนก่อนถูกปลดออกจากตำแหน่ง 

เมื่อถูกถามว่าเขาย้ายมาทำงานกับ บาเยิร์น มิวนิค เร็วเกินไปหรือไม่ เทรนเนอร์วัย 36 ปีตอบทันทีว่า 'ไม่เลย'

'ผมได้รับการแต่งตั้งที่ บาเยิร์น โดยมีจุดประสงค์เพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ หลายสโมสรมีเวลาให้คุณ เจอร์เก้น คล็อปป์ อยู่กับสโมสรลิเวอร์พูลเป็นเวลา 5 ปีจนกระทั่งเข้าได้เป็นแชมป์ที่นั่นครั้งแรก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกกับ แมนฯซิตี้ หลังทำงาน 7 ปี โค้ชของ บาเยิร์น มิวนิค ไม่มีเวลามากขนาดนั้นในการพัฒนาบางสิ่งบางอย่าง'

การแสดงความเห็นของ นาเกลส์มันน์ เกิดขึ้นท่ามกลางการคาดเดาเกี่ยวกับ ชาเบียร์ อลอนโซ่ ที่มีโอกาสย้ายจาก เลเวอร์คูเซ่น มาทำงานกับสโมสรเก่าที่เคยค้าแข้งด้วยในช่วงซัมเมอร์นี้ หลัง บาเยิร์น มิวนิค อาจต้องจ่ายเงินเพื่อฉีกสัญญาของเทรนเนอร์ชาวสเปนเหมือนที่เคยจ่ายเงิน 25 ล้านยูโรดึง นาเกลส์มันน์ จาก แอร์เบ ไลป์ซิก ในปี 2021 แต่ นาเกลส์มันน์ ถูกไล่ออกหลังทำงานเพียง 18 เดือนจากสัญญาที่เซ็นไว้ 5 ปี ดังนั้นมันจึงไม่มีอะไรรับประกันว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นกับ อลอนโซ่ 

นาเกลส์มันน์ ยังกล่าวถึงสิ่งที่เขาเรียนรู้ตอนทำงานกับทีมดังแคว้นบาวาเรียว่า 'ในฐานะโค้ช คุณไม่ควรดึงดูดความสนใจมากเกินไป ในทางกลับกัน ผมไม่อยากแกล้งทำเป็นคนอื่นในการทำงาน ผมมีลักษณะนิสัยที่แตกต่างจาก จุ๊ปป์ ไฮย์เกส นั่นยกตัวอย่าง ผมแค่ทำบางอย่างแตกต่างออกไป เพียงเพราะผมอายุน้อยกว่า ผมไม่ได้ยืนอยู่บนเส้นในเกมของ เอฟซี บาเยิร์น ในชุดเทรนช์โค้ทสีเบจ เพียงเพราะคนรุ่นก่อนหน้าของผมบางคนทำแบบนั้น'

'คนรับผิดชอบในมิวนิครู้ล่วงหน้าว่าผมจะสวมแจ็คเก็ตสีแดงด้วย และมันไม่ได้รบกวนพวกเขาเลย แต่เมื่อคุณล้มเหลว เรื่องเล็กๆน้อยๆเหล่านั้นก็มักจะถูกกลบเกลื่อนไป'

'ผมจะบอกว่าผมระมัดระวังมากขึ้น ละเอียดอ่อนมากขึ้น สิ่งต่างๆไม่ได้สวยงามเสมอไปในวงการฟุตบอล มันไม่ได้ช่วยอะไรหากคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้มีอำนาจตัดสินใจ และนั่นคือสิ่งที่ผมมีกับ โอลิเวอร์ คาห์น และ ฮาซาน ซาลิฮามิดซิช เราได้หารือกันว่าเราต้องการจัดการอย่างไรหากเกิดสถานการณ์เลวร้ายที่สุด แต่แล้วทุกอย่างก็แตกต่างออกไปในความเป็นจริง'

'คำถามเกิดขึ้น ในอนาคตผมจะเปิดใจให้กับการเป็นตัวเอกในวงการนี้มากแค่ไหน? เมื่อผู้คนหยุดพูดหลังการพ่ายแพ้ คุณจะรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ในทุกสโมสรที่ผมเคยทำงานด้วย ผมหวังเสมอว่าพวกเขาจะบอกผมอย่างเปิดเผยเมื่อพวกเขาต้องการโค้ชคนใหม่ ผมจะรับมือกับมันได้และยังต้องการชัยชนะในเกมหน้าอีกด้วย ไม่ต้องสงสัยเลย เพราะมันเป็นอาชีพของผม แต่ขาดความเปิดกว้างในการดำเนินธุรกิจ'

'สิ่งที่สื่อสารออกไปภายนอกหลังการแยกทางกันแทบไม่เกี่ยวข้องกับความเป็นจริงเลย แต่นั่นคือสิ่งที่มันเป็นมาตลอดในวงการฟุตบอล และมันจะเป็นแบบนั้นไปตลอด 30 ปีข้างหน้า' นาเกลส์มันน์ กล่าว