2ศิษย์พี่รุมสับดาร์วิ่นเลิกสากกี่โมง
แดเนียล สเตอร์ริดจ์ และ เจมี่ คาร์ราเกอร์ สองนักวิเคราะห์ สกาย สปอร์ตส์ เอือมกับวิธีการจบสกอร์ของ ดาร์วิ่น นูนเญซ กองหน้า ลิเวอร์พูล เกมพ่าย เอฟเวอร์ตัน 0-2 วานนี้ เพราะหากละเอียดสักนิดผลการแข่งขันคงเปลี่ยนไป
ดาร์วิ่น ผลงานอาจพัฒนาจากฤดูกาลที่แล้วเมื่อลงสนาม 50 นัดทุกรายการทำไป 18 ประตู, 13 แอสซิสต์ แต่โอกาสจะแจ้งที่ได้แล้วเปลี่ยนเป็นสกอร์นั้นต่ำเตี้ย แล้วค่าสถิติพลาดโอกาสทองมากถึง 26 ครั้งในลีกฤดูกาลนี้เป็นรองแค่ เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ ของ แมนฯ ซิตี้ (30 ครั้ง)
นั่นทำให้สองศิษย์เก่า ‘หงส์แดง’ ต้องบ่นเสียดายหากโค้งสุดท้ายแข้งอุรุกวัยควรเด็ดขาดกว่านี้ เผลออาจนั่งหัวตารางอย่างสบายใจ ไม่ใช่โอกาสลุ้นแชมป์ลีกริบหรี่ 4 แมตช์เดย์ท้าย
“ผมคิดว่าถึงจุดนี้ของฤดูกาล คงไม่ต้องไปตั้งข้อกังขาอะไรในตัว ดาร์วิ่น อีก” คาร์ราเกอร์ กล่าวหลังจบเกมที่ กูดิสัน พาร์ค
“หมอนั่นทุ่มทุกอย่าง, ทั้งวิ่ง, ทั้งสร้างงานแก่คู่แข่ง, มีประตู/แอสซิสต์ แต่หลังจากเล่นให้ ลิเวอร์พูล เข้าฤดูกาลที่สอง แล้วปีนี้ได้เบียดแย่งแชมป์ลีก ยังกล้าพลาดโอกาสทองในเกมใหญ่บ่อยครั้ง”
“คุณต้องพังข่ายให้ได้ในการเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด, กูดิสัน พาร์ค หรือเกมเหย้าพบ อตาลันต้า”
“นี่ไม่ใช่เดือน ต.ค.หรือพ.ย. แต่นี่คือช่วงที่เข้าด้ายเข้าเข็ม ลุ้นแชมป์ลีกกับอีกหลายทีม”
“อย่างฤดูกาลแรกที่เขามาก็บอกกันแล้วหมอนั่นต้องเร่งฝีเท้า มาดูบทสรุปปัจจุบันผมไม่คิดว่ามีพัฒนาการอะไรที่ยิ่งใหญ่ สองปีที่ผ่านมาเห็นแล้วหมอนี่เป็นยังไง นิยามคือสามารถสร้างปัญหาแก่เกมป้องกันคู่แข่ง แต่แง่จบสกอร์เอาแน่เอานอนไม่ได้”
https://twitter.com/SkySportsPL/status/1783245990763381107/video/1
“ไม่คิดว่าคุณสมบัติแค่นี้เพียงพอให้ลุ้นถ้วยรางวัลใหญ่ ดังนั้นมองว่ากำลังจะมีการตัดสินใจสำคัญในตัวหมอนั่น”
ก็เป็นมุมมองที่ไม่แตกต่างจาก สเตอร์ริดจ์ ว่า ดาร์วิ่น ต้องถูกประเมินตอนปิดซีซั่น รวมถึงอีกกองหน้าละตินอย่าง หลุยส์ ดีอาซ
“การจบสกอร์ของ ดาร์วิ่น เมื่อคืนคงทำให้ตัวเขาเองผิดหวัง เพราะหมอนั่นคือตัวสร้างงานแก่กองหลังคู่แข่งอย่างแท้จริง ทว่าขาดความเด็ดขาด, หลุยส์ ดีอาซ ก็ด้วย” อดีตกองหน้า ลิเวอร์พูล เสริม
“พวกเขาไม่ได้อยู่ช่วงผลงานที่ดีสุด แล้วจะด้วยเหตุผลอะไร พวกเขาจบงานไม่ลง ทีมจำเป็นต้องคุณยกรระดับผลงานอีกระดับ”
“ทีมนี้มีตัวถล่มตาข่ายตำแหน่งปีกอย่าง ซาลาห์ ส่วนที่เหลือ ดีอาซ, ดาร์วิ่น รับผิดชอบครึ่ง-ต่อ-ครึ่ง ย้อนไปครั้ง ลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จ ทาง ‘โม’ กับ ซาดิโอ มาเน่ แบกทำประตู, มีกองหน้าเบอร์#9 โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่เคยทำประตู, ทำแอสซิสต์เสริม-ปัจจุบันมันขาดความต่อเนื่อง”
“เมื่อไหร่ที่ ซาลาห์ ตีนบอด, ดีโอโก้ โชต้า ไม่ฟิตอีก ทั้งที่เขาเป็นหนึ่งในคนผลิตประตูแก่ทีม ทางผจก.ทีม คนใหม่ต้องหาวิธีการให้ผู้เล่นเหล่านั้นเชื่อมต่อกันติด หรือไม่ก็ตัดสินใจครั้งสำคัญ”
ลิเวอร์พูล ฝืดจริงไม่สามารถทำประตูได้ 3 จาก 5 เกมหลังสุด ไอเดียเข้าเจาะโอเพ่น เพลย์มืดบอด
TH SPORTเว็บไซต์ข่าวกีฬา อัพเดทข่าวฟุตบอลต่างประเทศทุกวันทุกเวลา