เยอรมัน ดร็อป เดนิซ อุนดาฟ ที่เพิ่งยิง 2 ประตูใส่ บอสเนียฯ เป็นแค่สำรอง ส่วน เนเธอร์แลนด์ ไม่มี เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กองหลังกัปตันทีมที่ติดโทษแบน 

เริ่มเกมแค่ 2 นาที เยอรมัน ส่งบอลตุงตาข่ายได้จาก เจมี่ เลเวลิ่ง แต่สุดท้ายผู้ตัดสินเช็กวีเออาณ์ ก่อนชี้ขาดว่า แซร์ช นาบรี้ อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าทำให้เจ้าถิ่นยังไม่ได้ประตูนำ

โอกาสของเจ้าถิ่น และ เลเวลิ่ง มาอีกครั้งในนาที 28 เมื่อได้จังหวะซัดคนเดียวโล่งๆ ตรงจุดโทษ แต่โดน สเตฟาน เดอ ฟราย เคลียร์ทิ้งได้ทันอีก

เยอรมัน ครองบอลได้ดีกว่า แต่ยังไม่สามารถเจาะประตูนำได้ในครึ่งแรกที่ยังเสมอกัน 0-0 

ครึ่งหลัง อินทรีเหล็ก ได้ประตูนำ 1-0 ในนาที 64 จากเตะมุมฝั่งซ้ายที่ โยชัว คิมมิช โยนให้ ทิม ไคลน์เดียนส์ค โหม่งติดบล็อกจังหวะแรก แต่บอลเด้งเข้าทาง เจมี่ เลเวลิ่ง หวดเต็มข้อส่งบอลพุ่งเสยตาข่ายแทบขาด

เนเธอร์แลนด์ น่าจะตีเสมอได้ในนาที 77 ชาฟี ซีมอนส์ ได้บอลทางฝั่งซ้าย ก่อนเลี้ยงตัดในแล้วกดเต็มข้อจากหน้าเขตโทษ บอลพุ่งวาบเช็ดคานเด้งออกหลังไปแบบได้เสียวสุดๆ

ช่วงทดเจ็บนาทีแรก ทีมเยือนเกือบตีเสมอได้อีกครั้ง มัทส์ วีฟเฟอร์ ทำชิ่งมาให้ ดอนเยลล์ มาเล่น กดเต็มข้อจากหน้าเขตโทษ บอลพุ่งจะเสียบสามเหลี่ยมอยู่แล้วแต่ โอลิเวอร์ เบามันน์ ซูเปอร์เซฟปัดมือเดียวออกไปได้อย่างสุดยอด

จากนั้นจบเกม เยอรมัน รักษาสกอร์นำเอาไว้ได้ทำให้เบียดชนะ เนเธอร์แลนด์ 1-0 คว้า 3 คะแนนสำคัญพร้อมรั้งจ่าฝูงของกลุ่มต่อไป