แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กัปตัน ลิเวอร์พูล เกมออกไปพ่าย พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น 2-3 ส่งท้ายลีก เฟส ชปล. วานนี้ ทางหนึ่งก็เสียดายที่ไม่สามารถทำสถิติชนะ 100% แต่เมื่อแลกกับเสริมประสบการณ์แข้งหนุ่มหลายคนถือว่าคุ้ม
‘หงส์แดง’ การันตีเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายฐานะทีมวางดังนั้นการเยือน ฟิลิปส์ สตาดิโอน จึงให้โอกาสกลุ่มที่ลงสนามน้อยรวมถึงดาวรุ่งไปสะสมชั่วโมงบินของจริงเกมชิงแชมป์ทวีป
นั่นทำให้แม้แต่ โรเบิร์ตสัน ยังต้องหุบไปจบคู่เซนเตอร์แบ็กกับ ยาเรลล์ ควอนซาห์ จากเดิมเต็มที่แค่สต็อปเปอร์ซ้ายเวลาเตะทีมชาติสกอตแลนด์
มองภาพรวมที่ออกมาแข้งวัย 30 ปีมองเป็นความปราชัยที่ให้คุณเพื่อต่อยอดมากกว่าเป็นโทษ
“เราสามารถต่อยอดเรื่องดีๆมากมายจากเกมเมื่อคืน เหนือสิ่งอื่นใดงานของเราลุล่วงไปก่อนแล้ว” โรเบิร์ตสัน กล่าวกับเว็บไซต์ ยูฟ่า
“มันอนุญาตให้เปิดโอกาสแก่ผู้เล่นที่ไม่ค่อยได้ลงสนามมากนัด, มากนาทีได้ปล่อยของ และได้มอบประสบการณ์ประเดิมแข่งชุดใหญ่แก่น้องๆหลายคน
“มองเรื่องรูปเกมเราอุตส่าห์ได้เปรียบเมื่อขึ้นนำ 2-1 แต่บางทีคงอ่อนหัดกันไปหน่อยช่วง 5 นาทีสุดท้ายก่อนพักครึ่งเวลา ซึ่งปกติไม่ค่อยเกิด”
“คุณต้องการยืนหลังให้แน่นๆ ขึ้นนำคู่แข่งเมื่อจบครึ่งเวลา แต่เรากลับเปิดโอกาสแก่คู่แข่งแม้แค่น้อยนิดแต่มันกลับมาย้อนเล่นงาน -กระทั่งมาถูกไล่ออกอีกก็จบเลย”
“พูดถึงน้องที่ได้เดบิวต์อย่าง แม็คคอนเนลล์ แดนกลางทำได้ดี นิ่งเมื่อครองบอล, เลี้ยงกินแดนขึ้นหน้า”
“แดนน์ส ก็ทำงานหนักแดนหน้า”
“เรื่องเพรสซิ่งให้เหมาะสมมันต้องอาศัยความเข้าใจเกม แต่ในแง่การครองบอลรอจังหวะหรือการเชื่อมเกมกับแดนกลางทำได้ดี หมอนั่นมีอนาคตที่สดใสคอยท่า รวมถึงเด็กๆจากม้านั่งสำรองด้วย”
กลุ่มสำรองที่ได้สลับลงสนามก็สายเลือดใหม่ทั้ง ไทเลอร์ มอร์ตัน, เทรย์ โยนี่ และ อมาร่า นัลโด กองหลังซึ่งถูกไล่ออกท้ายเกม
TH SPORTเว็บไซต์ข่าวกีฬา อัพเดทข่าวฟุตบอลต่างประเทศทุกวันทุกเวลา
