หอกเปรสตันถูกตั้งข้อหาเหยียดฮานนิบาล

    สมาคมฟุตบอลอังกฤษทำการสอบสวนเหตุการณ์ที่ถูกกล่าวหาว่า เกิดขึ้นระหว่างเกมที่เสมอกัน 0-0 ที่ดีปเดลเมื่อเดือนที่แล้ว

    ตอนนี้ เอฟเอได้ตั้งข้อกล่าวหา ออสมายิชแล้ว และแข้งชาวมอนเตเนโกรมีเวลาจนถึงวันที่ 25 มีนาคมในการยื่นอุทธรณ์

    แถลงการณ์ระบุว่า "มีการกล่าวหาว่ากองหน้ารายนี้กระทำการในลักษณะที่ไม่เหมาะสม และ/หรือใช้คำพูดดูหมิ่นและ/หรือดูหมิ่นผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม ซึ่งขัดต่อกฎ E3.1 ของเอฟเอ"

    มีการกล่าวหาเพิ่มเติมว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่าย "ละเมิดกฎอย่างร้ายแรง" เนื่องจากมี "การอ้างอิงถึงสีผิวและ/หรือเชื้อชาติ ไม่ว่าจะโดยชัดแจ้งหรือโดยนัย"

    เกมแชมเปี้ยนชิพดังกล่าวถูกเลื่อนออกไปหลายนาทีในครึ่งหลัง เมื่อนักเตะชาวตูนิเซียแสดงปฏิกิริยาอย่างรุนแรงต่อสิ่งที่ดูเหมือนว่า ออสมายิชจะพูดกับเขา จากนั้น ฮันนิบาล พูดคุยกับ แอนดรูว์ คิตเช่น ผู้ตัดสินอยู่นาน

    ออสมายิช วัย 25 ปี ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวอย่างหนักแน่น

    ทั้งสองทีมพบกันอีกครั้งในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 5 สองสัปดาห์ต่อมา โดยเปรสตันชนะ 3-0

    นักเตะเบิร์นลี่ย์ปฏิเสธจับมือกับออสมายิชก่อนเกม โดยที่ สก็อตต์ พาร์เกอร์ ผู้จัดการทีมไม่ได้ส่งฮันนิบาลลงสนาม

    ออสมายิชทำประตูที่ 2 ให้กับเจ้าบ้านได้

    ปาร์คเกอร์กล่าวในตอนนั้นว่า "มันเป็นการตัดสินใจที่ยาก และเรามาที่นี่ด้วยสภาพที่อ่อนแอลงเล็กน้อยในวันนี้ เพราะฮันนิบาลเป็นสมาชิกคนสำคัญมากของทีมชุดนี้ และผมรู้สึกว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดสำหรับฮันนิบาล"

    "ผมไม่ต้องการให้เขาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ดังนั้น เราจึงตัดสินใจเพื่อสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับฮันนิบาล นั่นคือเหตุผลที่เขาไม่ได้อยู่ในทีมชุดแข่งขัน"

    ในโพสต์บนอินสตาแกรมหลังจบเกมแรก อดีตผู้เล่นแมนฯ ยูไนเต็ดโพสต์ว่า “ผมจะไม่นิ่งเฉยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ผมจะออกมาเรียกร้องเรื่องการเหยียดเชื้อชาติทุกครั้งที่ได้ยินหรือเห็นมัน"

    "นั่นคือวิธีเดียวที่เราจะเปลี่ยนแปลงได้ในฐานะคนกีฬาและสังคม ผมเป็นคนเข้มแข็งแต่ไม่มีใครควรต้องประสบกับการทารุณกรรมอันน่ารังเกียจนี้ในสนาม"

    ในเดือนตุลาคม ออสมายิชถูกเอฟเอแบน 8 เกมจากการกัด โอเว่น เบ็ค ของแบล็คเบิร์น เขายอมรับข้อกล่าวหาประพฤติตัวรุนแรง และถูกปรับเงิน 15,000 ปอนด์