ซาก้าใจเพชรไม่หงอแม้โดนการ์บาฆาลป่วนพักครึ่ง

เหตุการณ์เกิดตอนผู้ตัดสินเป่าหมดเวลาครึ่งแรกเสมอ 0-0 ซึ่งก่อนนั้น ซาก้า ได้ยิงจุดโทษแล้วทำเหนือชั้นซัดแบบ ‘ปาเนก้า’ กะชิพโด่งๆเข้ากลางประตูแต่ก็ถูกนายด่าน ติโบล กูร์กตัวส์ ปัดปลายมือ 

การยิงแบบ ‘ปาเนก้า’ ถูกมองในหลายมุม หากซัดเข้าก็ถือว่าเหนือชั้น แต่หากยิงพลาดจะถูกตำหนิจากทั้งฝั่งตัวเองและคู่แข่ง 

ตามรายงานจาก ‘โมบี สตาร์ ฟุตบอล’ ระบุว่า การ์บาฆาล ที่อยู่ระหว่างฟื้นตัวจากการผ่าตัดเอ็นไขว้เข่าด้านหน้าคงไม่พอใจที่แข้งผู้ดียิงจุดโทษหยามกันแบบนั้น จึงปรี่ไปหาเรื่อง 

แต่สตาร์ ‘ปืนใหญ่’ ไม่แยแส ทั้งคงเหน็บแนมคืนจกองหลังวัย 33 ปีปรี่ไปจู่โจมบีบท้ายทอยใส่ก่อนมุดอุโมงค์ เดือดร้อน เบน ไวท์ ตัวสำรอง อาร์เซน่อล และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าระงับเหตุการณ์ 

บทสรุปของเรื่องไม่มีอะไรมากกว่านั้น ซาก้า กลับมาแข่งต่อพร้อมทำประตูเบิกร่องครึ่งหลัง นำทีม อาร์เซน่อล คว้าชัย 2-1 ในเลกสอง รอบก่อนรองฯ ผ่านเข้าตัดเชือกผลรวม 5-1

โดยหลังเกม ซาก้า ไม่ได้พูดถึงเหตุการณ์กระทบกระทั่งกับ การ์บาฆาล แต่ขอโทษทีมเรื่องไอเดียยิงจุดโทษห่ามๆ 

“ของแบบนี้มันเกิดขึ้นได้” ปีกชาวอังกฤษพูดถึงการตัดสินใจยิงจุดโทษแบบ ‘ปาเนก้า’

“ผมพยายามลองทำอะไรบางอย่างแล้วมันไม่เข้าท่า แต่เพราะตัวเองมั่นใจว่าสามารถทำประตูในคืนนี้ได้”

“ตัวเองกำลังเรียนรู้ในทุกโมงยาม”

“เมื่อคืนผมใส่ใจกับความสนุกในชัยชนะเป็นเรื่องแรก ไว้จากนั้นจะกลับไปย้อนดูเหตุการณ์ยิงจุดโทษพลาดจริงๆจังๆ” 

อาร์เซน่อล เพิ่งสร้างประประวัติศาสตร์ทีมเดียวที่เอาชนะ เรอัล มาดริด ถึงซานติอาโก เบร์นาเบว ในการไปเยือนสองครั้งแรก หนก่อนเกิดเมื่อปี 2006