'แรช'ต้องหนี'มู'หากหวังดังพลุแตก

กองหน้าวัย 20 กะรัตเพิ่งตะบันสุดสวยในเกมอุ่นเครื่องที่ 'สิงโตคำราม' ชนะ คอสตาริกา 2-0 แถมฟอร์มบนสนามก็แจ่มแจ๋วได้รับการชื่นชมจากทีมสตาฟฟ์และสื่อมวลชน 

ทั้งนี้แม้ปัจจุบันจะมี เนย์มาร์ จูเนียร์ หรือ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ฉายแววความเป็นซูเปอร์สตาร์โลกฟุตบอล แต่ในความเห็นของแข้งโปรตุกีสในวัย 33 ปี เชื่อว่า 'แรช' สามารถเก่งได้ระดับเดียวกับสองคนนั้น 

แรชฟอร์ด มีศักยภาพไปถึง โรนัลโด้

นอกจากนันสตาร์โปรตุกีสยังใส่ชื่อของ มาร์โก อาเซนซีโอ (สเปน), อุสมาน เดมเบเล่ (ฝรั่งเศส) และ เอแด็น อาซาร์ (เบลเยียม) อยู่ในลิสต์ด้วย 

อย่างไรก็ตามเรื่องที่หลายฝ่ายกังวลคือเมื่อมาอยู่ในความดูแลของทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มี ผจก.ทีม โชเซ่ มูรินโญ่ กุมบังเหียน แรชฟอร์ด จะพัฒนาไปเก่งกว่านี้ได้อย่างไรเมื่อถูกจำกัดเวลาลงสนาม 

เปรียบเทียบจากซีซั่นแรกที่ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ 2015-16 ในยุค ผจก.ทีม หลุยส์ ฟาน กัล ดาวเตะผู้ดีมีส่วนกับ 7 สกอร์จากการสตาร์ต 11 นัด เฉลี่ยคือทุก 123 นาที ต้องมียิงหรือแอสซิสต์ 

มูรินโญ่ จอมสกัดดาวรุ่ง

ผลงาน แรช ในยุค ฟาน กัล ดูมีประสิทธิภาพมากกว่า

ทว่าผ่านไปสองซีซั่นกับ ผจก.ทีม มูรินโญ่ ถอยหลังลงคลอง ล่าสุด 2017-18 สตาร์ตเพิ่มขึ้นเป็น 35 เกมก็จริง แต่ส่วนร่วมกับประตูคือ 12 ลูก เฉลี่ยคือทุก 150 นาที ต้องมียิงหรือแอสซิสต์ ซึ่งถือว่าแย่ลง จึงพอเข้าใจว่าหาก 'ปีศาจแดง' ไม่เปลี่ยนเทรนเนอร์ หรือ แรชฟอร์ด ย้ายหนี ก็คงไม่เก่งไปกว่าเดิม