:::     :::

ช็อก!หมีขาวแม่นเป้าเขี่ยกระทิงร่วงบอลโลก

วันอาทิตย์ที่ 01 กรกฎาคม 2561
1,828
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share

รัสเซียสร้างประวัติศาสตร์ได้สำเร็จ เมื่อเอาชนะสเปนช่วงดวลจุดโทษ 4-3 หลังเสมอในเวลา 90 และ 120 นาที 1-1 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่มีการแบ่งแยกประเทศมา

ฟุตบอลโลก 2018 รอบ 16 ทีมสุดท้าย

วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม 2561

สเปน 1 - รัสเซีย 1

(ต่อเวลาพิเศษเสมอ 1-1, รัสเซียชนะจุดโทษ 4-3)

สนาม :  ลุซนิกี สเตเดี้ยม

    สเปน ของเทรนเนอร์ เฟร์นานโด เอียร์โร่ เปลี่ยนแปลง 3 จุด มาร์โก อเซนซิโอ, โกเก้ และ นาโช่ เฟร์นานเดซ สลับลงตัวจริงแทน อันเดรส อีเนียสต้า, ติอาโก้ อัลกันตาร่า และ ดานี่ การ์บาฆาล

    ด้าน สตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ เทรนเนอร์ รัสเซีย ปรับทีม 4 ตำแหน่ง อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน, ยูริ เชียร์คอฟ, ดาเลอร์ คูเซียเยฟ, มาริโอ แฟร์นันเดส ลงแทน อเล็กเซ มิรานชุค, เดนิส เชรีเชฟ, ยูริ กาซินสกี้ และที่ติดโทษแบน อีกอร์ สโมลนิคอฟ

    เกมผ่านไป 12 นาที สเปน ขึ้นนำ 1-0 จากฟรีคิกฝั่งขวา มาร์โก อเซนซิโอ เปิดลึกไปเสาไกล เซอร์เก อิ๊กนาเชวิช ประกบอยู่กับ เซร์คิโอ รามอส แล้วหันหลังให้บอล บอลตกลงมาโดนขากองหลังรัสเซียเข้าประตูตัวเอง

    พอเสียประตู รัสเซีย เริ่มกระตุ้นเกมรุกได้ดีขึ้น นาที 36 โรมัน ซอบนิน ไหลให้ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน แต่งเข้าเท้าขวาแล้วปั่นโค้งจากระยะ 18 หลาหน้ากรอบ แต่บอลเลี้ยวไม่พอ หลุดเสาสองออกไป

    นาที 41 หมีขาว มาได้จุดโทษ อเล็กซานเดอร์ ซาเมดอฟ ครอสจากด้านขวา อาร์เต็ม ชิวบา ขึ้นโหม่งไปติดแขน เคราร์ด ปิเก้ ที่ยกขึ้นมาขวางเต็มๆ ผู้ตัดสินรอจังหวะสักพักก่อนเป่าให้เป็นจุดโทษ และใบเหลืองแก่ ปิเก้ ก่อนที่ ชิวบา สังหารจุดโทษเข้าไปตีเสมอให้ รัสเซีย 1-1

    ครึ่งหลัง รัสเซีย ส่ง วลาดิเมียร์ กรานัต แทน ยูริ เชียร์คอฟ ตั้งแต่เริ่ม จากนั้นก็ทะยอยส่ง เดนิส เชรีเชฟ แทน อเล็กซานเดอร์ ซาเมดอฟ นาที 61 และ เฟดอร์ สโมลอฟ แทน อาร์เต็ม ชิวบา นาที 65

 ขณะที่ สเปน ส่ง อันเดรส อีเนียสต้า แทน ดาบิด ซิลบา นาที 67, ดาเนียล การ์บาฆาล แทน นาโช่ เฟร์นานเดซ ที่บาดเจ็บนาที 70 และคนสุดท้าย ยาโก้ อัสปาส แทน ดีเอโก้ คอสต้า นาที 80

    กระทิงดุ เกือบได้ประตูชัยในนาที 85 อีเนียสต้า ตัวสำรอง ส่องไกลจากหน้ากรอบโทษ อีกอร์ อาคินเฟเยฟ พุ่งเซฟออกมา ยาโก้ อัสปาส ซ้ำอีกทีก็ถูกเซฟผ่านหน้าประตูออกไป

    จบเกม 90 นาที สเปน เสมอ รัสเซีย 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที

    ช่วงต่อเวลาพิเศษ กระทิงดุมีโอกาสในนาทีที่ 112 จากลูกยิงของ โรดริโก้ โมเรโน่ ติดเซฟ อาคินเฟเยฟ เด้งมาเข้าทาง การ์บาฆาล ซ้ำก็ติดบล็อกอีก

    หมด 120 นาทีเสมอกัน 1-1 ต้องไปยิงจุดโทษตัดสิน

    สุดท้ายก็เป็นรัสเซียที่เอาชนะ 4-3 โดยฝั่งของสเปนมี อันเดรส อิเนียสต้า, เคราร์ด ปิเก้ และ เซร์คิโอ รามอส ที่ยิงเข้า แต่ โกเก้ กับ ยาโก้ อัสปาส ยิงไปติดเซฟ อาคินเฟเยฟ

    ส่วนหมีขาวยิงเข้าหมด ไล่ตั้งแต่ เฟดอร์ สโลลอฟ, เซอร์เก อิ๊กนาเชวิช, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน และ เดนิส เชรีเชฟ


รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

    สเปน : ดาบิด เด เคอา - นาโช่ เฟร์นานเดซ, เคราร์ด ปิเก้, เซร์คิโอ รามอส, จอร์ดี้ อัลบา - เซร์คิโอ บุสเกตส์, โกเก้ - ดาบิด ซิลบา, อีสโก้, มาร์โก อเซนซิโอ - ดีเอโก้ คอสต้า

    รัสเซีย : อีกอร์ อาคินเฟเยฟ - มาริโอ แฟร์นันเดส, อีเลีย คูเตปอฟ, เซอร์เก อิ๊กนาเชวิช, เฟดอร์ คูเดรียชอฟ - ดาเลอร์ คูเซียเยฟ, โรมัน ซอบนิน - อเล็กซานเดอร์ ซาเมดอฟ, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน, ยูริ เชียร์คอฟ - อาร์เต็ม ชิวบา

    ผู้ตัดสิน : บียอร์น ไคเปอร์ส (ฮอลแลนด์)


TH SPORTเว็บไซต์ข่าวกีฬา อัพเดทข่าวฟุตบอลต่างประเทศทุกวันทุกเวลา

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})