'โครแอต'แม่นเป้าเขี่ย'หมีขาว'เข้าตัดเชือก
โครเอเชียทะลุผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ เมื่อเอาชนะรัสเซียในช่วงดวลจุดโทษ 4-3 หลังเสมอกันในเวลา 120 นาที 2-2 ขณะที่ 90 นาทีจบ 1-1
ฟุตบอลโลก 2018
รอบก่อนรองชนะเลิศ
รัสเซีย 1 - โครเอเชีย 1
(ต่อเวลาพิเศษเสมอ 2-2, โครเอเชียชนะจุดโทษ 4-3)
สนาม : ฟิชท์ สเตเดี้ยม
เริ่มเกมมา 2 นาที รัสเซียได้ลุ้นก่อน จากจังหวะที่ อาร์เต็ม ซิวบา จ่ายให้กับ เดนิส เชรีเชฟ อัดด้วยขวาจากทางกรอบเขตโทษด้านขวาบอลหลุดเสาสองไป
3 นาทีต่อมา อาร์เต็ม ซิวบา ได้จังหวะหวดด้วยขวาติดบล็อคของ เดยัน ลอฟเรน ปราการหลังของโครเอเชีย ออกหลังไป
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 11 โครเอเชีย ตั้งเกมได้แล้ว ตอบโต้มาบ้าง ซิเม่ เวอร์ซัลโก้ เปิดจากกราบขวาให้ มาริโอ มานด์ซูคิช กระทุ้งด้วยขวากลางกรอบเขตโทษบอลหลุดเสาขวาออกไป
ห้านาทีต่อมา ทีมตาหมากรุกได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษเยื้องมาทางด้านซ้าย อีวาน ราคิติช รับหน้าที่ปั่นด้วยขวาบอลเลี้ยวข้ามคานไป
อย่างไรก็ตามเป็น รัสเซีย ที่ได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 31 จากจังหวะที่ อาร์เต็ม ซิวบา จ่ายคืนกลับมาให้ เชรีเชฟ กระชากเข้าไปซัดด้วยซ้ายจากหน้าเขตโทษบอลพุ่งเสียบใต้คานอย่างหมดจด
โครเอเชียเปิดเกมสู้และมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 39 เมื่อ มานด์ซูคิช หลุดไปทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนโยนเข้ากลางให้ อันเดร ครามาริช โขกจากระยะแค่ 6 หลาเข้าประตูไปไม่เหลือ หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 1-1
กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลังได้ 5 นาที โครเอเชีย บดเข้าใส่ทันที ลูก้า โมดริช ตะบันด้วยขวาบอลหลุดเสาซ้ายไป
กระเถิบมานาทีที่ 52 ทีมตาหมากรุก ได้โอกาสอีกครั้ง อีวาน เปริซิซ เปิดบอลให้กับ ครามาริช ซัดด้วยขวากลางกรอบเขตโทษติดเซฟของ อาคินเฟเยฟ
หนึ่งชั่วโมงของเกมการแข่งขัน โครเอเชีย น่าจะได้ประตูขึ้นนำอย่างยิ่ง เมื่อ อาคินเฟเยฟ นายทวารรัสเซีย ขึ้นทุบบอลมาตกเข้าทาง อีวาน เปริซิซ ซัดด้วยขวาจากกลางกรอบเขตโทษบอลไปชนเสาซ้ายเหลี่ยมในแล้วเด้งผ่านหน้าปากประตูออกมาอย่างน่าเสียดายที่สุด
ล่วงเลยมานาทีที่ 72 รัสเซีย โต้ขึ้นมาบ้าง มาริโอ แฟร์นานเดส โยนจากกราบขวาเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ อเล็กซานเดอร์ เอโรคิน ที่ลงมาเป็นสำรองเทคตัวโขกจากระยะแค่ 6 หลา บอลย้อยข้ามคานไป
ถัดมา 4 นาที โครเอเชีย ทำเกมรุกขึ้นมา มีโอกาสได้ลุ้นโมดริช ได้สับด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษติดบล็อคมาเข้าทางของ เวอร์ซัลโก้ หวดซ้ำด้วยขวาติดบล็อคของ เอโรคิน ออกหลังไป จากลูกเตะมุม มานด์ซูคิช ได้ขึ้นโขกบอลหลุดกรอบไป
เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้อีก จบเกมเสมอ 1-1 ต้องบู๊กันในช่วงต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที
ช่วงต่อเวลานาทีที่ 101 โครเอเชียมาขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่ โมดริช เปิดลูกเตะมุมไปให้ โดมากอย วิด้า เทกตัวโหม่งเข้าประตูไป
อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 115 รัสเซียตามตีเสมอ 2-2 เมื่อ อลัน ซาโกเยฟ เปิดฟรีคิกไปให้ มาริโอ แฟร์นานเดส เทกตัวโหม่งเสียบเสาไกลไม่เหลือ
หมด 120 นาทียังเสมอกัน 2-2 ต้องไปตัดสินกันในช่วงยิงจุดโทษ
และผลการยิงจุดโทษกลายเป็น โครเอเชียที่ชนะ 4-3 ผ่านเข้ารอบตัดเชือกไปพบอังกฤษในวันพุธนี้
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
รัสเซีย : อีกอร์ อาคินเฟเยฟ, มาริโอ แฟร์นานเดส, อิลย่า คูเตปอฟ, เซอร์เก อิ๊กนาเชวิช, ฟิโอดอร์ คูเดรียชอฟ, โรมัน ซอบนิน, ดาเลอร์ คูเซียเยฟ, อเล็กซานเดอร์ ซาเมดอฟ, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน, เดนิส เชรีเชฟ, อาร์เต็ม ซิวบา
โครเอเชีย : ดานิเยล ซูบาซิช, ซิเม่ เวอร์ซัลโก้, เดยัน ลอฟเรน, โดมากอย วีด้า, อีวาน สตรินิช, อีวาน ราคิติช, ลูก้า โมดริช, อันเต้ เรบิช, อันเดร ครามาริช, อีวาน เปริซิซ, มาริโอ มานด์ซูคิช
ผู้ตัดสิน : ซานโดร ริชชี่ (บราซิล)
TH SPORTเว็บไซต์ข่าวกีฬา อัพเดทข่าวฟุตบอลต่างประเทศทุกวันทุกเวลา