สิงโตน้อยพ่ายผีดิบ2-4จอดป้ายรอบแรก

    ทัพสิงโตที่พ่ายต่อ ฝรั่งเศส 1-2 ในนัดเปิดสนามจำต้องพยายามเก็บชัยในนัดนี้ให้ได้เพื่อโอกาสเข้ารอบน็อคเอาต์ โดยมี เจมส์ แมดดิสัน, เมสัน เมาท์, เดมาไร เกรย์, โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน และ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ เป็นตัวชูโรง ขณะที่ ฟิล โฟเด้น ดันหลุดไปเป็นตัวสำรองซะงั้น

    ครึ่งแรก โรมาเนีย เกือบเฮในนาทีที่ 6 เมื่อ อันเดร อีวาน ได้ยิงด้วยขวา แต่ ดีน เฮนเดอร์สัน ยังปัดออกหลังไปได้ และจากลูกเตะมุม อีวาน คนเดิมก็ได้ยิงไปชนเสาอีก

    ครึ่งหลังก็ยังเป็น โรมาเนีย ที่ดูดีกว่า นาทีที่ 49 เฮนเดอร์สัน ต้องออกแรงเซฟอีกครั้งจากลูกยิงของ ยานิส ฮาจี้

    กระทั่งนาทีที่ 76 ทัพผีดิบน้อยก็มาขึ้นนำ 1-0 เมื่อ จอนโจ เคนนี่ ไปฟาวล์ ฟลอริเนล โคมาน ในเขตโทษ ก่อนที่ จอร์จี้ ปุสกัส จะรับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด

    ทว่าให้หลังเพียง 3 นาที อังกฤษก็ตามตีเสมอ 1-1 ได้เร็ว เมื่อ เจค คล้าร์ก-ซัลเตอร์ จ่ายไปให้ เดมาไร เกรย์ ยิงด้วยขวาจากหน้าเขตโทษเข้าประตูไป

    นาทีที่ 85 โรมาเนียขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 จาก ยานิส ฮาจี้ ยิงไกลด้วยซ้ายเข้าประตูไป

    แต่แค่นาทีเดียว อังกฤษก็ตามตีเสมอ 2-2 เมื่อ เมสัน เมาท์ จ่ายไปให้ แทมมี่ อบราฮัม กองหน้าสำรองซัดด้วยขวาตุงตาข่าย

    เกมมาสนุกในช่วงท้าย นาทีที่ 88 โรมาเนีย มานำเป็น 3-2 ฟลอริน บ็อกดาน สเตฟาน จ่ายไปให้ ฟลอริเนล ทีโอดอร์ โคมาน ยิงเข้ประตูไป

    ช่วงทดเจ็บนาทีแรก สิงโตน้อยเกือบเอาคืน เมื่อ เคนนี่ เปิดไปให้ อบราฮัม โหม่งชนคานอย่างน่าเสียดาย

    แต่นาทีที่ 90+3 กลายเป็นสิงโตที่ต้องเก็บฉาก เมื่อโดน ฟลอริเนล โคมาน คนเดิมยิงไกลด้วยขวาเข้าประตูไป จบเกม โรมาเนีย เอาชนะ อังกฤษ 4-2 ส่งทัพสิงโตที่แพ้ 2 นัดรวดตกรอบแรกเรียบร้อย