ทวิตเตอร์ตกลงร่วมมือป้องกันการโพสต์เหยียด
ทวิตเตอร์ เครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดังของโลกเผยว่าพร้อมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบและควบคุมพฤติกรรมผู้ใช้งานที่อาศัยช่องทางดังกล่าวแสดงพฤติกรรมเหยียดผิวและเชื้อชาติ
ช่วงที่ผ่านมามีนักเตะโดนแฟนบอลโจมตีเรื่องเชื้อชาติและถูกเหยียดผิวอย่างมากไม่ว่าจะในหรือนอกสนาม โดยเฉพาะในอังกฤษที่มีกรณีของ แทมมี่ อบราฮัม กองหน้า เชลซี และ เกิร์ต ซูม่า กองหลังสิงโตน้ำเงินคราม รวมไปถึง ปอล ป็อกบา กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด สองสตาร์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ถูกแฟนบอลในโลกออนไลน์โจมตีอย่างหนัก
นอกจากนี้ โรเมลู ลูกากู กองหน้าตัวใหม่อินเตอร์ มิลาน ก็โดนแฟนบอลในอิตาลีที่ขึ้นชื่อเรื่องการเหยียดผิวนักเตะรับน้องในเกมที่ งูใหญ่ ออกไปดวลกับ กายารี่ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นมาทั้งทาง พรีเมียร์ลีก, พีเอฟเอ หรือรัฐมนตรีกีฬาของอังกฤษต่างออกมาตอบรับกับเหตุการณ์และพยายามหาทางแก้ไขพฤติกรรมของบรรดาแฟนบอลเหล่านี้โดยจะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาหารือ
รวมไปถึง คิก อิท เอาท์ (Kick It Out) กลุ่มที่ทำหน้าที่รณรงค์ต่อต้านพฤติกรรมเหยียดผิวในวงการกีฬาก็ออกมาดำเนินการในเรื่องนี้แล้วซึ่งที่ผ่านมาได้เข้าไปหารือกับบริษัท ทวิตเตอร์ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีโดยเครือข่ายออนไลน์แห่งนี้สัญญาว่าจะพยายามหาทางจำกัดและควบคุมโพสต์ที่มีลักษณะเข้าข่ายการเหยียดผิวหรือเชื้อชาติ รวมไปถึงในทางลบอีกด้วย
"ทวิตเตอร์ ได้ตกลงที่จะใช้แพล็ทฟอร์มและทรัพยากรของพวกเขาในการสนับสนุนการรณรงค์ของพวกเราเกี่ยวกับการป้องกันพฤติกรรมการแบ่งแยกในเกมฟุตบอลทางออนไลน์"
"คิก อิท เอาท์ จะสานต่อในการเป็นผู้นำในเรื่องการดึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในวงการฟุตบอลและกฎหมายในการป้องกันความรุนแรงทางออนไลน์ให้ควบคู่ไปด้วยกัน"
"แต่สิ่งที่สังคมต้องการมากที่สุดคือการที่ ทวิตเตอร์ ได้ตัดสินใจในการเป็นผู้นำและส่งสัญญาณในการเปลี่ยนแปลงและปิดกั้น เราหวังว่าจะได้เห็นเรื่องนี้ในช่วงสัปดาห์หรือเดือนต่อๆไปนับจากนี้" คิก อิท เอาท์ ระบุในแถลงการณ์
สำหรับทาง ทวิตเตอร์ เองก็ออกมาเผยว่าเท่าที่ตรวจสอบข้อมูลดูแล้วมีข้อความกว่า 700 ตัวอย่างที่เข้าข่ายเรื่องของการใช้คำพูดรุนแรงในช่วง 15 วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นจำนวน 7 เปอร์เซ็นต์ของข้อความที่ถูกแจ้งเข้ามา
TH SPORTเว็บไซต์ข่าวกีฬา อัพเดทข่าวฟุตบอลต่างประเทศทุกวันทุกเวลา