หงส์ชนะคดีเสื้อแข่งจูบปากไนกี้ปีหน้า

ดราม่าระหว่างแบรนด์ นิว บาลานซ์ ฐานะเสื้อแข่งเจ้าเดิมที่จะหมดสัญญา พ.ค.2020 นี้ พยายามรักษาสิทธิ์การร่วมงานกับมหาอำนาจแห่งเมอร์ซี่ย์ไซด์ต่อไปเพราะทีม 'หงส์แดง' กำลังขาขึ้น โดยอ้างเรื่องออปชั่นการเสนอราคาสู้กับเจ้าอื่น 

ทว่าทางสโมสรได้ไปเจรจานอกรอบกับแบรนด์ ไนกี้ เพราะมองเรื่องความเป็นที่รู้จักในวงกว้างกว่า, รายได้-ต่อ-ปี บวกเปอร์เซนต์ส่วนแบ่งยอดจำหน่าย, จำนวนช่องทางปล่อยของทั่วโลกกว่า 6,000 ร้าน และภาพลักษณ์จากนักกีฬาคนอื่นร่วมยี่ห้อแข็งแรง

เป็นเหตุให้เรื่องต้องถึงโรงถึงศาล พิจารณากันมา 3-4 วัน ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่า ลิเวอร์พูล สามารถเปลี่ยนไปใช้แบรด์ตรา 'สวูช' ได้เลย พร้อมไฟเขียวกระบวนการออกแบบและผลิต 

"สโมสรเรามีความยินดีที่คณะผู้พิพากษาตัดสินให้องค์กรเป็นฝ่ายชนะในข้อพิพาทกับผลิตภัณฑ์กีฬา นิว บาลานซ์ ผู้สนับสนุนเจ้าปัจจุบัน" โฆษก 'หงส์แดง' กล่าว 

https://twitter.com/ptgorst/status/1187666504436895744

หงส์แดง ได้คำตัดสินศาลอนุญาตร่วมงาน ไนกี้

"ทั้งนี้เราจะร่วมงานกับแบรนด์ไปจนสิ้นสุดฤดูกาล ควบคู่ไปกับการเตรียมพร้อมสำหรับซีซั่นหน้าที่ ลิเวอร์พูล จะได้ผลิตภัณฑ์กีฬาเจ้าใหม่มาสนับสนุน" 

อ้างอิงจาก 'เดอะ ไทม์ส' สื่อฯคุณภาพระบุว่าผู้บริหาร ลิเวอร์พูล ขอรับเงินการันตีสนับสนุนจาก ไนกี้ ปีละ 30 ล้านปอนด์เท่านั้น แล้วที่เหลือค่อยไปหากินจากส่วนแบ่งยอดจำหน่ายอย่างถูกลิขสิทธิ์อีก 20% 

โดยแม้ตัวเลขกินเปล่าจะน้อยกว่าพวก 'บิ๊ก 6' อื่นทั้ง เชลซี (60 ล้านปอนด์-ต่อ-ปี) และ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ (55 ล้านปอนด์-ต่อ-ปี ) ที่ใช้ยี่ห้อ ไนกี้ เหมือนกัน 

หรือแบรนด์อื่นอย่าง อาร์เซน่อล ที่ทำกับ อาดิดาส ( 60 ล้านปอนด์-ต่อ-ปี), แมนฯ ซิตี้ ใช้ยี่ห้อ พูม่า (65 ล้านปอนด์-ต่อ-ปี) หรือ อาดิดาส ทำกับ แมนฯ ยูไนเต็ด (75 ล้านปอนด์-ต่อ-ปี) 

แต่จุดที่ 'หงส์แดง' เดิมพันคือส่วนแบ่งจากยอดจำหน่าย ประมาณว่าต่อซีซั่นไม่ต่ำกว่า 50 ล้านปอนด์ เมื่อรวมเงินการันตีเท่ากับว่าทีมฟันเหนาะๆ 80 ล้านปอนด์-ต่อ-ฤดูกาล หากสามารถผูกปิ่นโตเวที ชปล.และลุ้นแชมป์ลีกไปเรื่อยๆ