ผีเปิดคลังพบหนี้พุ่งพรวดถึง55.5%
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เปิดเผยรายงานทางการเงินของสโมสรซึ่งพบว่าพวกเขามีหนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 55.5 เปอร์เซ็นต์จากปีที่ผ่านมา
ตามรายงานระบุว่า ปิศาจแดง ได้เปิดงบบัญชีไตรมาสแรกของปี 2020 ซึ่งลงไว้ไปจนถึงเดือนมิถุนายนปี 2020 ว่าพวกเขามีหนี้เพิ่มขึ้นจาก 247.2 ล้านปอนด์ มาเป็น 384.5 ล้านปอนด์ หรือคิดเป็น 55.5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสาเหตุสำคัญคือการทุ่มเงินซื้อ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กับ อารอน วาน-บิสซาก้า มาร่วมทีม รวมไปถึง แดเนี่ยล เจมส์
นอกจากนั้นในส่วนของการคาดการณ์เรื่องรายได้รวมก็ถูกปรับลดจาก 627.1 โดยทาง ยูไนเต็ด คาดว่าฤดูกาล 2019/20 จะมีรายได้ประมาณ 560-580 ล้านปอนด์ เนื่องจากทีมพลาดไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และค่าลิทสิทธิ์ทางโทรทัศน์ ที่ตกลงมาถึง 23.1 เปอน์เซ็นต์หรือราว 9.9 ล้านปอนด์
แต่ทีมยังคงถูกขับเคลื่อนด้วยการขายสินค้าของสโมสรที่ระบุว่าปรับตัวดีขึ้นถึง 5.9 เปอร์เซ็นต์ หรือขึ้นมาอยู่ที่จำนวน 135.4 ล้านปอนด์
ทั้งนี้การพลาดโอกาสไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ของ ปิศาจแดง ยังส่งผลให้ตัวเลขค่าเหนื่อยในทีมลดลงมา 8.8 เปอร์เซ็นต์ รวมไปถึงการย้ายทีมออกไปของ โรเมลู ลูกากู และ อเล็กซิส ซานเชซ (ยืมตัว)
โดยในรายงานระบุว่าด้วยปัจจัยดังกล่าวอาจจะทำให้ ปิศาจแดง ไม่มีการเบิกงบในการเสริมทัพหน้าหนาวนี้เพราะทีมไม่ต้องการที่จะลงทุนช่วงกลางซีซั่น แต่ก็พร้อมทุ่มเงินอีกครั้งในหน้าร้อนปีถัดไป
อย่างไรก็ตาม เอ็ด วูดเวิร์ด รองประธานบริหารของสโมสรไม่ได้กังวลกับเรื่องนี้และมีรายงานว่าสโมสรพร้อมรับการตอบรับจากฟีฟ่าหากว่าถูกเชิญไปเล่น ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ หรือฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกที่จะเพิ่มเป็น 24 ทีมในหน้าร้อนปี 2021
TH SPORTเว็บไซต์ข่าวกีฬา อัพเดทข่าวฟุตบอลต่างประเทศทุกวันทุกเวลา