'โด้'ร้อนฉ่าทำ5สถิติในเวลา11วัน

โรนัลโด้ เดินหน้ากวาดแชมป์และสถิติมากมายในเดือนธันวาคม ไล่ตั้งแต่เป็นนักเตะคนแรกที่ยิงประตูในรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังยิงครบ 6 นัดในเกมชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 3-2 เมื่อวันพุธที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา

วันต่อมา โรนัลโด้ เดินทางไปฝรั่งเศสเพื่อขึ้นรับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม "บัลลงดอร์" สมัยที่ 5 ของตัวเองซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเทียบเท่า ลิโอเนล เมสซี่ คู่ปรับตลอดกาลจากบาร์เซโลน่า 

กลับมาลุยในลีกอีกครั้ง แข้งทีมชาติโปรตุเกสสังหาร 2 ประตูพาเรอัล มาดริด อัด เซบีย่า ขาดลอย 5-0 และ 2 ประตูนี้ก็ทำให้เจ้าตัวยิงคู่แข่งทีมเดิมได้ 25 ประตู ทำลายสถิติของ กีเยร์โม่ โกรอสติซ่า อดีตดาวยิง แอธเลติก บิลเบา และ บาเลนเซีย ที่เคยยิงบาร์เซโลน่าได้ถึง 24 ประตู ซึ่งครองสถิติมายาวนาน 71 ปี

จากนั้น โรนัลโด้ และพลพรรคราชันชุดขาวเดินทางมาทำศึกชิงแชมป์สโมสรโลกที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และคว้าแชมป์ได้สำเร็จด้วยการเอาชนะ อัล-จาซิร่า 2-1 ในรอบชิงชนะเลิศ และเฉือนเกรมิโอ 1-0 ในรอบชิงชนะเลิศ

"ซีอาร์7" ยิงประตูได้ทั้งสองนัดรวม 2 ประตูทำให้ครองตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของรายการนี้ที่ 7 ประตู โดยก่อนหน้านี้ยิงได้ 4 ประตูในปี 2016 และ 1 ประตูในปี 2008 ซึ่งเมื่อ 9 ปีก่อนยังเล่นให้แมนฯ ยูไนเต็ด

นอกจากนี้ การคว้าแชมป์สโมสรโลกได้ในครั้งล่าสุดยังเป็นแชมป์สมัยที่ 4 ต่อจากปี 2008 (แมนฯ ยูไนเต็ด), 2014 และ 2016 เป็นสถิติสูงสุดเท่ากับ โทนี่ โครส กองกลางเพื่อนร่วมทีมที่ได้ 1 สมัยกับบาเยิร์น มิวนิค และอีก 3 สมัยกับเรอัล มาดริด

รวมแล้วในช่วงเวลา 11 วัน ระหว่างวันที่ 6 ถึง 16 ธันวาคม คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำสถิติให้ตัวเองถึง 5 รายการ