ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีก แมนฯ ซิตี้ ซึ่งติดภาพเป็นผู้เรียกร้องความยุติธรรมแก่คนดำในวงการฟุตบอลอังกฤษ ตั้งคำถามถึงการปฏิบัติอย่าง 2 มาตรฐานระหว่างเฮดโค้ชอังกฤษผิวขาวซึ่งถูกลัดคิวขึ้นคุมทีมลีกสูงสุด แต่กับโค้ชอังกฤษผิวดำต้องไปนับหนึ่งลีกรอง
ประชาชนในหลายๆ ประเทศทั่วโลกออกมาประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมแก่คนดำใต้แคมเปญ 'ชีวิตคำดำก็มีค่า' โดยจุดเริ่มต้นมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจของสหรัฐฯ ทำเกินกว่าเหตุจนส่งผลให้ จอร์จ ฟลอยด์ ชายแอฟริกัน-อเมริกันเสียชีวิต
ทั้งนี้ สเตอร์ลิ่ง ที่เคยถูกเหยียดผิวในช่วงที่ผ่านมา นอกจากเผยว่าตนเองหนุนหลังกลุ่มผู้ประท้วงอย่างสันติแล้ว ยังกังขาถึงการเลือกปฏิบัติในวงการฟุตบอลสหราชอาณาจักรต่อ โค้ชขาว-โค้ชดำ
พร้อมยกตัวอย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด ทั้งที่มีประสบการณ์คุมทีมชุดใหญ่ปีเดียวแต่กลับถูก เชลซี เลือกมากุมบังเหียนในซีซั่นนี้ หรืออย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ไม่เคยกุมบังเหียนระดับซีเนียร์มาก่อนแต่ก็ยังมี เรนเจอร์ส เอฟซี ที่สกอตติช พรีเมียร์ชิพ จ้างด้วยสัญญาระยะยาว
ต่างกับผู้เล่นทีมชาติอังกฤษ'ยุคทอง'เหมือนกันอย่าง โซล แคมป์เบลล์ ซึ่งอยู่ลีกรองอย่าง เซาท์เอนด์ โดยก่อนนั้นก็คุมทีมองค์ประกอบแย่อย่าง แม็คเคิ่ลฟิลด์ หรือ แอชลี่ย์ โคล ก็ต้องไปนับหนึ่งจากการเป็นโค้ชเยาวชน เชลซี
"เรื่องนี้คือสิ่งที่เราต้องร่วมมือกันเพื่อหาทางแก้ไขหากคิดอยากจุดประกายความเปลี่ยนแปลง" สเตอร์ลิ่ง กล่าวกับ 'บีบีซี นิวส์ไนท์'
https://twitter.com/BBCNewsnight/status/1270117198506442753
สเตอร์ลิ่งกระบอกเสียงคนดำ
" เพราะมีเรื่องให้ถกกันเพียบหากต้องการเปลี่ยนจริงๆ การวางคนผิวดำในตำแหน่งผจก.ทีมนี้ ซึ่งผมมองว่ามันสมควรมี"
"ยกตัวอย่างโค้ชหรือสตาฟฟ์ที่เราเห็นของแต่ละสโมสรฟุตบอล"
"กรณีศึกษาที่ชัดเจนสุดเรามี สตีเว่น เจอร์ราร์ด กับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เรามี โซล แคมป์เบลล์ กับ แอชลี่ย์ โคล"
"พวกเขาทั้งหมดสมัยเป็นนักเตะเส้นทางอาชีพยอดเยี่ยม เล่นในนามทีมชาติอังกฤษด้วยรุ่นเดียวกัน ได้รับใบประกาศโค้ชระดับสูงเช่นกัน แต่มีสองคนที่ไม่ได้รับโอกาสที่เหมาะสม แล้วสองคนนั้นผิวดำ"
อนึ่ง สเตอร์ลิ่ง พูดบิดเบือนข้อมูลเพราะทั้งสองโค้ชผิวขาวก็เริ่มงานจากทีมเยาวชนทั้งสิ้น กรณี เจอร์ราร์ด ทำงานเฮดโค้ช ยู-18 ลิเวอร์พูล ส่วน แลมพาร์ด ก็เป็นสตาฟฟ์โค้ชเยาวชน เชลซี ในฤดูกาล 2017-18 เหมือนกัน
TH SPORTเว็บไซต์ข่าวกีฬา อัพเดทข่าวฟุตบอลต่างประเทศทุกวันทุกเวลา
