สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ภายใต้การบริหารงานของ พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ ยังคงให้ความสำคัญและเดินหน้าอย่างต่อเนื่องคือการสร้างรากฐานให้แก่ “ฟุตบอล อคาเดมี” ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อการพัฒนาฟุตบอลไทยอย่างยั่งยืน
เป้าหมายสำคัญ คือ การยกระดับคุณภาพ “ผู้ฝึกสอนฟุตบอล” หรือ “โค้ช” ให้แก่ “อคาเดมี” ต่างๆ ทั่วประเทศที่ขึ้นทะเบียนกับสมาคมฯ เพราะโค้ชถือเป็นด่านแรกในการปลุกปั้นนักกีฬารุ่นใหม่ๆ จากรุ่นสู่รุ่น ให้ก้าวเข้ามาสู่สาระบบฟุตบอลไทยอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน มีอคาเดมี ที่ขึ้นทะเบียนกับสมาคมฯ มีจำนวนทั้งสิ้น 139 อคาเดมี (ประกาศเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2563) แบ่งออกเป็น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 36 อคาเดมี, ภาคเหนือ 11 อคาเดมี, ภาคใต้ 18 อคาเดมี, ภาคตะวันออก 12 อคาเดมี, ภาคตะวันตก 5 อคาเดมี และ ภาคกลาง 57 อคาเดมี
ซึ่งในปี 2020 สมาคมฯ ได้เปิดให้ อคาเดมี ที่มีความพร้อมแจ้งความประสงค์ในการส่งบุคลากรเข้าอบรมโค้ชหลักสูตรเบื้อต้น หรือ FA Thailand Introductory เพื่อนำความรู้ที่ได้เรียนรู้ไปถ่ายทอดให้แก่เด็กๆ และเยาวชน อีกทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นของการก้าวไปสู้เส้นทางผู้ฝึกสอนอาชีพในระดับต่างๆ อาทิ ซี ไลเซนส์, บี ไลเซนส์, เอ ไลเซนส์ จนถึงระดับสูงสุดคือ โปร ไลเซนส์
โดยมี อคาเดมี ซึ่งมีความพร้อมและได้ตอบรับส่งบุคลากรเข้าร่วมอบรม จำนวน 84 แห่ง สำหรับ การขึ้นทะเบียน อคาเดมี ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จะยังคงเปิดระบบให้ลงทะเบียน ได้ที่
https://forms.gle/4EXqADjLiJvh2LTB7 ( ตัวอย่างคู่มือการ ได้ที่
https://bit.ly/2NFMaSH ) โดยจะมีการประกาศ อคาเดมี ที่ผ่านการลงทะเบียนรอบ 2 ในช่วงเดือน มกราคม 2563
นอกจากนี้ ในปี 2021 อคาเดมี ที่ขึ้นทะเบียนกับสมาคมฯ ยังมีสิทธิ์ได้เข้าร่วมโครงการ FIFA Clearing House โดยสมาคมฯ จะเชื่อมต่อฐานข้อมูลของนักกีฬาในฐานข้อมูลของ FIFA ซึ่งอคาเดมีที่ฝึกนักกีฬาที่ได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพครั้งแรก และทุกๆ ครั้งที่นักกีฬาย้ายสโมสร (ต้องเป็นการโอนย้ายระหว่างประเทศ) ในช่วงก่อนอายุ 23 ปี จะได้เงินส่วนแบ่งจากค่าตัวนักกีฬา 5 เปอร์เซ็นต์ ของค่าตัวทั้งหมด ตามสัดส่วนของกฎ FIFA Regulations on the Status and Transfer of Players กำหนดไว้