แพ้ไม่ได้! โซรันชี้ทุกทีมสูสีวัดกันที่สมาธิ
โซรัน ยานโควิช เฮดโค้ชทีมชาติไทยชุดยู-23 เผยทุกทีมในกลุ่มศักยภาพไม่ได้เหนือกว่ากันมากนัก ชี้สมาธิคือตัวตัดสินเกม
ทีมฟุตบอลทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ลงฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบแบ่งกลุ่มนัดที่สอง ที่จะพบกับ ทีมชาติญี่ปุ่น U23
การฝึกซ้อมครั้งนี้ สภาพอากาศอยู่ที่ ติดลบสององศาเซลเซียส โดยเน้นที่การฟื้นฟูร่างกาย โดยขาดเพียง รัตนากร ใหม่คามิ กองกลางที่มีอาการบาดเจ็บ จึงต้องแยกซ้อมกับนักกายภาพประจำทีม
หลังการฝึกซ้อม โซรัน ยานโควิช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย U23 กล่าวว่า "ตอนนี้ถือเป็นสถานการณ์ที่ลำบาก เพราะเราไม่สามารถแพ้ได้อีกแล้ว เพราะหากเราแพ้ โอกาสเข้ารอบต่อไปก็จะผิด เกมต่อไปกับญี่ปุ่น เราต้องเก็บแต้มให้ได้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้ารอบต่อไป"
"จากที่ดูเกมของเรา และเกมที่ญี่ปุ่น กับ ปาเลสไตน์ เห็นได้ชัดว่าทั้งสี่ทีมในกลุ่มนี้ต่างอยู่ในระดับเดียวกัน มันตัดสินที่สมาธิในเกมว่าใครมีมากกว่ากัน นี่คือสิ่งสำคัญ ใครมีสมาธิมากกว่าก็จะเอาชนะได้"
"การซ้อมวันนี้คือการฟื้นฟูร่างกาย ส่วนหลังจากนี้เราจะเตรียมตัวเรื่องแท็คติก เราจะพยายามแก้ไขข้อผิดพลาดทั้งหมด เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีกในเกมกับญี่ปุ่น เท่าที่เราได้ดูเกมระหว่างญี่ปุ่น กับ ปาเลสไตน์ ความแตกต่างของเกมนี้ไม่ต่างจากเกมของเรา แค่ญี่ปุ่นมีสมาธิมากกว่าพวกเขาก็เอาชนะปาเลสไตน์ได้ ผมพูดได้เลยว่าเกมนั้น ญี่ปุ่นไม่ได้เหนือกว่าปาเลสไตน์แบบเห็นได้ชัด ปาเลสไตน์ก็มีโอกาสเหมือนกัน แต่แค่ทำประตูไม่ได้ เกมกับเกาหลีเหนือ นักเตะหลายคนวิ่งเยอะมาก แต่แค่นาทีแรกที่เราเสียสมาธิ ผมหวังว่าเราจะมีสมาธิมากกว่าเดิม และทำให้โอกาสในการเข้ารอบยังอยู่ ด้วยการเก็บผลสกอร์ที่ดีในเกมกับญี่ปุ่น"
"ในเกมกับออสเตรเลีย เราเสียสองประตู ในช่วงต้นครึ่งแรกกับต้นครึ่งหลัง ผมคิดว่านี่คือช่วงเวลาที่สำคัญ ปัญหานี้คือปัญหาใหญ่เราต้องกระตุ้นนักเตะว่าช่วงต้นเกม กับ ต้นครึ่งหลังถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ เกาหลีเหนือยิงประตูเราตั้งแต่นาทีแรก เห็นได้ชัดว่าเราต้องมีสมาธิ ไม่ใช่ระหว่างเกม แต่ต้องตั้งแต่เริ่มเกมเป็นต้นไป และต้องมีสมาธิตลอดไปจนเกมจบ นอกจากนี้เรื่องโอกาสการทำประตู เราไม่ใช่บาร์เซโลนา หรือ เรอัล มาดริด ที่สร้างโอกาสได้มากมาย หากเรามีโอกาสเราต้องเปลี่ยนเป็นประตูให้ได้ เรามีโอกาสประมาณ 2-3 ครั้งในเกมกับเกาหลีเหนือ ซึ่งเราน่าจะเปลี่ยนเป็นประตู แต่เราทำไม่ได้ ทั้งชนคาน ทั้งติดเซฟ เราต้องทำให้ได้"
"แต่ตอนนี้เราต้องทิ้งเกมกับเกาหลีเหนือแล้ว เพราะมันจบไปแล้ว แต่สิ่งสำคัญคือเราจะต้องไม่เสียประตูรวดเร็วแบบนี้อีก เพราะการเสียประตูเร็วทำให้เราไม่สามารถเล่นได้ตามแท็คติกที่วางไว้ นี่คือปัญหาจากเกมแรก และหวังว่าเราจะทำได้ดีขึ้นในเกมต่อๆไป"
สำหรับฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 2018 รอบสุดท้าย นัดที่สองของกลุ่ม บี ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จะลงสนามพบกับทีมชาติญี่ปุ่น รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในวันที่ 13 มกราคม 2561 ที่สนามเจียงยิน สปอร์ต เซ็นเตอร์ ประเทศจีน เวลา 18.30 น. ตามเวลาประเทศไทย