ผลฟุตบอล โตโยต้า ไทยลีก 2020 นครราชสีมา เอฟซี เปิดบ้านพบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
เริ่มการแข่งขันครึ่งแรก ปราสาทสายฟ้า ที่มาทั้งชุดเสื้อสีเทาดำ กางเกงดำ ถุงเท้าเทา เป็นฝ่ายเขี่ยบอลเล่นก่อน บุกจากขวาไปซ้าย ส่วน สวาทแคท ที่มาในชุดสีส้มล้วน บุกจากซ้ายมาขวาของสนาม
นาทีที่ 5 เจ้าถิ่นมาได้เตะมุมทางขวา กีดี คานยุค เปิดบอลไปที่เสาสอง ไมคอน มาร์เกวซ ที่ลงไปช่วยเกมรับโหม่งบอลทิ้ง พ้นอันตรายมาได้
นาทีที่ 10 ปราสาทสายฟ้า มาได้ฟรีคิกระยะน่าลุ้น รัตนากร ใหม่คามิ เดินเข้าไปปั่นด้วยเท้าขวา บอลพุ่งแรงเหินข้ามคานออกไปไกล
นาทีที่ 25 เควิน อินเกรโซ ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษสวาทแคท ก่อนจะตัดสินใจยิงไปติดบล็อกผู้เล่นเจ้าถิ่น แล้วบอลเด้งมาโดนแขน เควิน อินเกรโซ ทำให้ผู้ตัดสินเป่าเป็นแฮนด์บอลไป
นาทีที่ 30 สวาทแคท มาได้ลุ้นประตู อมาดู อัตตารา ได้บอลในเขตโทษก่อนจะยกบอลย้อยๆ มาที่กลางประตู กีดี คานยุค กำลังจะโถมเข้าหาบอลเพื่อทำประตู แต่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ออกแรงโดดปัดบอลไว้ได้ก่อนสุดปลายมือ
นาทีที่ 36 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาได้ฟรีคิกระยะอันตราย ศศลักษณ์ ไหประโคน ยืนที่บอลคู่กับ รัตนากร ใหม่คามิ ก่อนจะเป็น ศศลักษณ์ ไหประโคน ที่วิ่งข้ามบอลแล้ว รัตนากร ใหม่คามิ วิ่งเข้าไปยิงเต็มแรง ทว่ากดบอลไม่ลงทำให้บอลพุ่งเหินข้ามคานออกไป
นาทีที่ 40 โอกาสเป็นของเจ้าถิ่น ประลอง สาวันดี ขึ้นเกมทางซ้ายก่อนจะตัดสินใจเปิดบอลยัดเข้าเขตโทษ เดนนิส มูริลโล ยืนตวัดเท้ายิงฮาร์ฟวอลเลย์ บอลพุ่งผ่านเสาออกหลังไป
นาทีที่ 43 ปราสาทสายฟ้า น่าจะได้ประตูออกนำอย่างที่สุด นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ทุ่มบอลเข้าไปในเขตโทษ ไมคอน มาร์เกวซ ตั้งหวังให้ ศุภชัย ใจเด็ด ยิง ทว่าผู้เล่นเจ้าถิ่นโหม่งสกัดบอลได้ก่อน แต่บอลยังอยู่ในกรอบเขตโทษเป็นทาง ศศลักษณ์ ไหประโคน ที่วิ่งมาจากแถวสอง ยิงบอลด้วยเท้าซ้าย บอลพุ่งไปชนเสาในแล้วเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย
จากนั้นไม่มีจังหวะลุ้นประตูเพิ่ม จบครึ่งเวลาแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกเสมอ นครราชสีมา เอฟซี อยู่ 0-0
กลับมาเล่นครึ่งหลัง ปราสาทสายฟ้า โหมเกมบุกเข้าใส่ตั้งแต่เสียงนกหวีดเริ่มดัง แต่ก็ยังไม่สามารถเจาะแนวรับเข้าไปยิงได้แบบเหน่งๆ
นาทีที่ 51 ปราสาทสายฟ้า มาได้ฟรีคิกทางริมเส้นฝั่งซ้าย รัตนากร ใหม่คามิ เปิดบอลเข้าไปในเขตโทษ เดนนิส มูริลโล โหม่งสกัดบอลออกมาหน้ากรอบเขตโทษ จักรพันธ์ แก้วพรม วิ่งเข้าไปยิงจากแถวสองบอลพุ่งเรียด พรรษา เหมวิบูลย์ ยืนอยู่หน้าปากประตูยิงบอลเข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกออกนำ 0-1
นาทีที่ 64 สวาทแคท ขึ้นเกมทางขวา เจสซี่ เคอร์เรน เปิดบอลยาวเข้าไปในเขตโทษ เดนนิส มูริลโล เทกตัวขึ้นโหม่งบอลหลุดกรอบออกหลังไป
นาทีที่ 68 ซามูเอล โรซา ลากบอลขขึ้นเกมทางซ้ายก่อนจะกระชากเร็วเข้าเขตโทษไปจนสุดเส้นหลัง พยายามจะกึ่งยิงกึ่งผ่าน ธณชัย หนูราช ยืนอ่านเกมอยู่ที่เสาแรกกระโดดรับบอลไว้ได้ทัน
นาทีที่ 74 จังหวะต่อเนื่องจากนาทีที่ 70 ที่เกมต้องหยุดไปชั่วขณะจากจังหวะที่มีการทำฟาว์ลกันในกรอบเขตโทษ เมื่อ ซามูเอล โรซา ปะทะกับ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว เหมือนจะไม่มีอะไร เมื่อบอลตายผู้ตัดสินได้รับแจ้งจึงของดู VAR ก่อนจะกลับมาเป่าจุดโทษให้ ปราสาทสายฟ้า ซามูเอล โรซา รับหน้าที่สังหารไม่พลาด นครราชสีมา เอฟซี 0-2 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
นาทีที่ 76 สุภโชค สารชาติ ได้บอลในกรอบเขตโทษก่อนจะตัดสินใจยิงด้วยเท้าขวาเต็มข้อบอลพุ่งไปโดน ธณชัย หนูราช เซฟทว่าบอลแรงมากเด้งมาเข้าทาง ไมคอน มาร์เกวซ ได้ซ้ำจ่อๆ เข้าประตูไป ปราสาทสายฟ้า หนีห่างเป็น 0-3
นาทีที่ 90+4 ศศลักษณ์ ไหประโคน เจะสกัดบอลจากแดนหลังขึ้นหน้าบอลลอยยาวไปถึง จักรกฤษ ลาภตระกูล ได้เลี้ยงจี้เข้าระยะทำการก่อนจะปั่นด้วยเท้าขาบอลหายเข้าประตู แต่ทว่าผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้า ทำให้สกอร์ยังอยู่ที่ 0-3 เช่นเดิม
จากนั้นครบการทดเวลา 5 นาที ไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สางบัญชีแค้นได้สำเร็จ บุกเอาชนะ นครราชสีมา เอฟซี ไปได้ 0-3 ส่งผลให้ ปราสาทสายฟ้า คว้า 3 คะแนนไปครอง ขยับไปมี 44 คะแนน
รายชื่อผู้เล่นทั้ง 2 ทีม
นครราชสีมา เอฟซี : ธณชัย หนูราช (ผู้รักษาประตู), ประลอง สาวันดี (อดิศักดิ์ หาญเทศ น.85), ณัฐพงษ์ สายริยา, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว (C), เอกณัฏฐ์ คงเกตุ (ชิตชนก ไชยแสนสุรินธร น.55), อมาดู อัตตารา (อับดุลฮาฟิส บือราเฮง น.85), เมธี ทวีกุลกาญจน์ (เดนนิส วิลลานูเอวา น.46), นฤพล อารมณ์สวะ (วีรวัฒน์ จิรภักสิริ น.75), เจสซี่ เคอร์เรน, กีดี คานยุค, เดนนิส มูริลโล
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ผู้รักษาประตู), อภิวัฒน์ งั่วลำหิน, พรรษา เหมวิบูลย์, รัตนากร ใหม่คามิ, ศศลักษณ์ ไหประโคน, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม (C), ปิยพล ผานิชกุล (แบรนดอน โอนีลล์ น.83), เควิน อินเกรโซ (จักรพันธ์ แก้วพรม น.46), สุภโชค สารชาติ (จักรกฤษ ลาภตระกูล น.78), ไมคอน มาร์เกวซ (ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา น.83), ศุภชัย ใจเด็ด (ซามูเอล โรซา น.58)