การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2020 เกมที่ 25 วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม 2564 คู่บิ๊กแมตช์ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 2 ที่มี 47 คะแนน ยกทัพออกไปเยือนสนามเอสซีจี สเตเดียม ของเมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 ที่มี 40 คะแนน จากการลงสนาม 24 นัดเท่ากัน
เริ่มการแข่งขันครึ่งแรก กิเลนผยอง ที่มาในเสื้อสีแดง กางเกงดำ ถุงเท้าดำ เป็นฝ่ายเขี่ยบอลเล่นก่อน บุกจากขวาไปซ้าย ส่วน ปราสาทสายฟ้า ที่มาในเสื้อและกางเกงสีขาวครีม ถุงเท้าสีทอง บุกจากซ้ายมาขวาของสนาม
นาทีที่ 4 จักรพันธ์ แก้วพรม แทงบอลจากตรงกลางสนามทะลุเข้าไปในเขตโทษให้ ซามูเอล โรซา จังหวะสุดท้ายที่ ซามูเอล โรซา จะพยายามจ่ายบอลคืนให้ ไมคอน มาร์เกวซ เข้ามายิง ทว่าผู้เล่นเจ้าถิ่นมาช่วยกันสกัดบอลไว้ได้
นาทีที่ 12 ทินกร อสุรินทร์ ดันเกมขึ้นมาถึงกลางสนามก่อนจะจ่ายบอลขึ้นหน้าให้ สุภโชค สารชาติ ได้จับบอลก่อนจะแต่งหาเหลี่ยมยิงด้วยเท้าขวาเต็มข้อ บอลพุ่งเหินข้ามคานออกไป
นาทีที่ 13 ยังคงเป็นโอกาสลุ้นประตูของ ปราสาทสายฟ้า จักรพันธ์ แก้วพรม วางบอลขึ้นไปในแดนหน้าให้ ไมคอน มาร์เกวซ ดึงบอลลงก่อนจะโยกหลอก 2 ผู้เล่นกิเลนผยอง แล้วตัดสินใจยิงเร็ว บอลพุ่งผ่านเสาออกหลังไป
นาทีที่ 23 รัตนากร ใหม่คามิ เปิดลูกเตะมุมทางซ้าย ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ โหม่งสกัดบอลได้ที่เสาแรก ทว่าบอลไปเข้าทาง ศศลักษณ์ ไหประโคน ได้ยิงอัดตูมเดียวเข้ามาในเขตโทษ ทินกร อสุรินทร์ แตะบอลไปถึง ซามูเอล โรซา ก่อนที่ดาวเตะชาวบราซิลจะใช้เหลี่ยมบังบอล แล้วคืนบอลย้อนหลังมาให้ ทินกร อสุรินทร์ ได้ยิงบอลโค้งออกหลังไป
นาทีที่ 27 กิเลนผยอง ได้ขึ้นเกมบุกทางซ้าย วิลเลี่ยน พอพพ์ รับบอลจากเพื่อนร่วมทีม กระชากขึ้นหน้าตัดเข้าเขตโทษ แล้วยิงบอลไว บอลพุ่งตรงกรอบ แต่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน อ่านเกมไว้แล้ว ล้มตัวรับบอลไว้ได้สบาย
นาทีที่ 29 ซามูเอล โรซา ใช้ความขยันวิ่งไล่บอลจากผู้เล่นเจ้าถิ่น ก่อนจะแย่งบอลได้ที่สุดเส้นหลังฝั่งขวา แล้วเจ้าตัวเปิดบอลเร็วเข้าไปในเขตโทษ สุภโชค สารชาติ จะได้ฮาร์ฟวอลเลย์ แต่ผู้เล่นกิเลนผยอง เหยียดเท้ามาจิ้มบอลออกหลังไปได้ทันเวลา
จากนั้นเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่โหมบุกใส่ได้ดีกว่า แต่โอกาสจะแจ้งที่จะพังประตูยังไม่มีเพิ่มมากนัก ทำให้จบ 45 นาทีแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกเสมอ เมืองทอง ยูไนเต็ด อยู่ 0-0
กลับมาเล่นครึ่งหลัง ปราสาทสายฟ้า ยังคงเปิดเกมบุกเข้าใส่เจ้าถิ่นเหมือนเช่นในครึ่งเวลาแรก แต่ยังไม่มีโอกาสจบบอลจังๆ
นาทีที่ 47 วัฒนากรณ์ สวัสดิ์ละคร กองหลังเจ้าถิ่นคืนบอลให้ สมพร ยศ นายด่านของทีม ทว่า ไมคอน มาร์เกวซ โชว์ความขยันวิ่งไล่บอลก่อนจะไปจิ้มบอลจากเท้าของ สมพร ยศ เข้าประตูไปง่ายๆ ปราสาทสายฟ้า บุกขึ้นนำ 0-1
นาทีที่ 57 กิเลนผยอง มาตามตีเสมอได้สำเร็จ กรวิชญ์ ทะสา ได้บอลที่กึ่งกลางสนามก่อนจะลากบอลขึ้นหน้าไปในเขตโทษ แล้วตัดสนใจยิงบอลพุ่งเข้าประตูไป เมืองทอง ยูไนเต็ด 1-1 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
นาทีที่ 71 ปราสาทสายฟ้า โหมบุกหนักอีกครั้งหลังจากโดนตีเสมอ แล้วความพยายามก็มาประสบความสำเร็จมาได้ประตูออกนำจากจังหวะที่ ศศลักษณ์ ไหประโคน เก็บบอลได้ทางฝั่งซ้าย ก่อนจะบรรจงเปิดบอลโค้งเข้าไปในเขตโทษ ปิยพล ผานิชกุล วิ่งเข้าไปฮาร์ฟวอลเลย์ บอลพุ่งเข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกนำอีกครั้ง 1-2
นาทีที่ 79 เจ้าถิ่นเริ่มตั้งเกมบุกได้อีกครั้ง และมาตามตีเสมอได้สำเร็จจากจังหวะที่ สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ เก็บบอลได้ในเขตโทษด้านขวา ก่อนจะตัดสินใจยิงบอลพุ่งหายเข้าประตูไป เมืองทอง ยูไนเต็ด 2-2 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
นาทีที่ 80 สุภโชค สารชาติ เกือบที่จะใส่สกอร์ให้ทีมนำอีกครั้งเมื่อหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะยกบอลข้ามหัว สมพร ยศ บอลลอยจะเข้าประตูอยู่แล้ว ศฤงคาร พรมสุภะ วิ่งตามมาสกัดบอลได้ที่หน้าปากประตู
นาทีที่ 90+2 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ฟรีคิกทางซ้าย ศศลักษณ์ ไหประโคน วิ่งเข้าไปยิงด้วยเท้าซ้ายบอลโค้งจะเสียบสามเหลี่ยม สมพร ยศ กระโดดปัดบอลได้อย่างเหลือเชื่อ
จากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกเสมอ เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปสุดมัน 2-2 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน ส่งผลให้ ปราสาทสายฟ้า ขยับไปมี 48 คะแนน จากการลงสนาม 25 นัด
รายชื่อผู้เล่นทั้ง 2 ทีม
เมืองทอง ยูไนเต็ด : สมพร ยศ (ผู้รักษาประตู), วัฒนากรณ์ สวัสดิ์ละคร, ลูคัส โรช่า (C) (ศฤงคาร พรมสุภะ น.44), ชาติชาย แสงดาว, สุพร ปีนะกาตาโพธิ์, วีระเทพ ป้อมพันธุ์ (สรวิทย์ พานทอง น.56), วงศกร ชัยกุลเทวินทร์ (พิชา อุทรา น.56), ฉัตรมงคล ทองคีรี, ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ (สหรัฐ กันยะโรจน์ น.89), ปรเมศย์ อาจวิไล (กรวิชญ์ ทะสา น.56), วิลเลี่ยน พอพพ์
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ผู้รักษาประตู), ทินกร อสุรินทร์ (อภิวัฒน์ งั่วลำหิน น.62), พรรษา เหมวิบูลย์, รัตนากร ใหม่คามิ, ศศลักษณ์ ไหประโคน, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม (C), เควิน อินเกรโซ (ปิยพล ผานิชกุล น.62), จักรพันธ์ แก้วพรม (ชิติพัทธ์ แทนกลาง น.81), สุภโชค สารชาติ, ไมคอน มาร์เกวซ (ศุภชัย ใจเด็ด น.81), ซามูเอล โรซา