การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก นัดที่ 27 ของฤดูกาล 2020/21 ระหว่างบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ว่าที่แชมป์ไทยลีก เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ทีมอันดับ 9 ของตารางคะแนน
เริ่มต้นครึ่งแรกเป็นทีมเยือนอย่างนครราชสีมาได้เขี่ยบอลเริ่มเล่น นาทีที่ 10 ทีมเยือนได้ทักทายก่อนจากจังหวะที่เจสซี่ เคอร์แรน ได้เลี้ยงจี้เข้ากรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนตัดสินใจยิงด้วยขวา แต่ฉัตรชัย บุตรพรมรับเข้าซองสบาย ต่อมาในนาทีที่ 12 นครราชสีมาฯ ได้ลุ้นอีกครั้งจากการยิงฟรีคิกของเดนนิส มูริลโล่ แต่บอลก็ยังพุ่งไปเข้ามือของฉัตรชัยอีกครั้ง
นาทีที่ 18 บีจี ปทุมฯ พลาดจังหวะการทำประตูขึ้นนำ จากลูกเตะมุมเปิดโดยสารัช อยู่เย็น และเป็นอันเดรส ตูเญซ ที่ได้โถมตัวเข้าโหม่งแต่โดนสกัดบนเส้น 18 หลา อย่างไรก็ตามกรรมการเป่าให้เป็นการทำฟาล์วของตูเญซในจังหวะก่อนหน้านี้ นาทีที่ 21 สุรชาติ สารีพิมพ์ ได้ยิงจากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลเหินข้ามคานออกไป
นาทีที่ 28 นครราชสีมา พลาดการได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะสวนกลับ อมาดู ออตตาร่า โยนบอลข้ามฟากมาให้เจสซี่ เคอร์แรน ได้จับหนึ่งจังหวะก่อนจะไหลให้กับจีดี้ คานยุค ได้ยิงแต่เป็นชาตรี ฉิมทะเลที่โหม่งสกัดออกมาจากหน้าประตูได้อย่างหวุดหวิด
นาทีที่ 38 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรกโดยส่งสหรัฐ ปองสุวรรณ ลงไปเล่นแทนอันเดรส ตูเญซ ต่อมานครราชสีมาฯ ยังคงบุกอย่างต่อเนื่องและได้มีจังหวะลุ้นการทำประตูในนาทีที่ 40 จากการยิงไกลระยะ 25 หลาของจีดี้ คานยุค บอลพุ่งเฉียดสามเหลี่ยมออกไปอย่างเฉียดฉิว
นาทีที่ 45 นครราชสีมาฯ พลาดประตูขึ้นนำ จากจังหวะสวนกลับ อมาดู ออตาร่า แทงบอลให้เจสซี่ เคอร์แรน ได้หลุดเข้าไปยิงทางด้านซ้าย แต่เป็นฉัตรชัย บุตรพรมที่โชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดออกหลังไปได้อย่างหวุดหวิด ก่อนกรรมการจะเป่าหมดเวลาการแข่งขันในครึ่งเวลาแรก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ยังคงเสมอกับนครราชสีมา มาสด้า เอฟซีอยู่ที่ 0-0
เกมกลับมาแข่งขันกันต่อในช่วงครึ่งหลัง โดยนาทีที่ 46 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนที่สองโดยส่งปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ และเชาว์วัตน์ วีระชาติลงไปเล่นแทนสหรัฐ โพธิ์ศรี และสิโรจน์ ฉัตรทอง นาทีที่ 50 บีจี ปทุมฯ มีจังหวะได้ลุ้นก่อนในครึ่งหลัง ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้ ดีดไซด์ก้อยให้สุรชาติ สารีพิมพ์ พยายามเข้าชาร์จบริเวณหน้าปากประตู แต่เข้าไม่ถึงบอลทำให้บอลหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 52 นครราชสีมาฯ พลาดประตูขึ้นนำอย่างน่าเหลือเชื่อจากจังหวะที่เจสซี่ เคอร์แรนเปิดเข้าไปลุ้นในกรอบเขตโทษ วิคเตอร์ คาร์โดโซ่พยายามเข้าถึงบอลก่อนเดนนิส มูริลโล่ แต่บอลกลับลอยไปเข้าทางของมูริลโล่ที่พยายามดีดบอลทันที แต่บอลพุ่งไปชนสามเหลี่ยมกระดอนออกมาอย่างน่าเหลือเชื่อ
จนกระทั่งในนาทีที่ 59 บีจี ปทุม ยูไนเต็ดสามารถทำประตูขึ้นนำ 1-0 ได้สำเร็จ จากการเปิดบริเวณหน้ากรอบเขตโทษของสุรชาติ สารีพิมพ์ ก่อนจะเป็นตัวสำรองอย่าง ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ที่สอดตัวโหม่งบอลเข้าประตูไป โดยในช่วงเวลาหลังจากนั้นเป็นทีมเยือนอย่างนครราชสีมาฯ ที่ได้ครองบอลบุกเข้าหามากกว่า แต่หาจังหวะจบสกอร์ไม่ได้
นาทีที่ 81 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนที่สี่โดยส่งมิสึรุ มารุโอกะลงไปเล่นแทนที่ของสุมัญญา ปุริสาย นาทีที่ 87 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้ลุ้นจากลูกเตะมุม เป็นเชาว์วัตน์ วีระชาติที่ได้เปิดเข้าไปลุ้นในกรอบเขตโทษก่อนจะเป็นสุรชาติ สารีพิมพ์ได้ขึ้นโหม่งแต่บอลหลุดกรอบออกไป
นครราชสีมาฯ ที่พยายามบุกอย่างหนัก ได้ลุ้นในนาทีที่ 89 ที่จีดี้ คานยุค ได้ปั่นบริเวณหน้ากรอบเขตโทษแต่บอลเหินข้ามคานออกไปแบบไม่ได้ลุ้น นาทีที่ 90+4 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ตอบโต้บ้าง จากจังหวะการหลุดเข้าไปยิงของดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้แต่นายทวารทีมเยือนยังสามารถรับไว้ได้
นาทีที่ 90+ 5 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนสุดท้ายโดยส่งตะวัน โคตรสุโพธิ์ ลงไปเล่นแทนที่ของเชาว์วัตน์ วีระชาติหลังจากนั้น กรรมการเป่านกหวีดหมดเวลา บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เปิดบ้านเฉือนเอาชนะนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 1-0 ทำให้เก็บเพิ่มเป็น 73 คะแนนและยังคงไม่แพ้ใครในฤดูกาลนี้
รายชื่อผู้เล่น
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด : ฉัตรชัย บุตรพรม (ผู้รักษาประตู), ชาตรี ฉิมทะเล, วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ (หัวหน้าทีม), อันเดรส ตูเญซ (สหรัฐ ปองสุวรรณ น.38), สันติภาพ จันทร์หง่อม, สุมัญญา ปุริสาย (มิสึรุ มารุโอกะ น.81), สารัช อยู่เย็น, สหรัฐ โพธิ์ศรี (ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ น.46), สุรชาติ สารีพิมพ์ , สิโรจน์ ฉัตรทอง (เชาว์วัตน์ วีระชาติ น.46) (ตะวัน โคตรสุโพธิ์ น.90+5) , ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้
นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี : ธณชัย หนูราช (ผู้รักษาประตู), เฉลิมพงศ์ เกิดแก้ว (หัวหน้าทีม), เอกณัฏฐ์ คงเกตุ, จีดี้ คานยุค, รัชนนท์ นคราวงศ์, เดนนิส วิลลานูเอว่า, เจสซี่ เคอร์แรน, เดนนิส มูริลโล่, ประลอง สาวันดี, ณัฐพงษ์ สายริยา, อมาดู ออตตาร่า