ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์ กองหลังคนสำคัญ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี เปิดเผยว่าพยายามผลักดันตัวเองอยู่เสมอ หลังล่าสุดได้รับโอกาสเข้ามาติด ทีมชาติไทย อีกครั้ง ในชุดที่ฝึกซ้อมเพื่อเตรียมความพร้อม ลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี)
กองหลังวัย 24 ปี โชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะช่วงเลกแรกที่ช่วย ราชันมังกร จบอันดับ 4 ในลีก จนได้สิทธิ์ไปลุยศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2021 รอบแบ่งกลุ่ม ครั้งแรก ก่อนถูก อากิระ นิชิโนะ เรียกเข้ามาติดธง ช้างศึก ต่อเนื่อง หลังก่อนหน้านี้ ก็อยู่ในชุดที่อุ่นเครื่องพบกับ ไทยลีก ออล สตาร์ เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา
“ดีใจครับที่โค้ช (อากิระ นิชิโนะ) ยังให้โอกาส และ เป็นการเก็บตัวในทัวร์นาเมนต์สำคัญอย่าง ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ด้วยครับ” ปวีร์ เริ่มกล่าวกับเรา
“เป็นครั้งที่ 2 ที่ผมมีโอกาสเข้ามาทำงานกับ โค้ชนิชิโนะ ส่วนตัวก็เข้าใจในสิ่งที่โค้ชต้องการมากขึ้นครับ ก็พยายามจดจำสิ่งต่างๆ ตั้งแต่แคมป์ที่แล้ว เพื่อทำให้ดีที่สุดในการฝึกซ้อมครับ”
“ในแง่ความเข้มข้น การเก็บตัวครั้งนี้ต่างจากแคมป์ที่แล้วพอสมควรครับ อย่างที่บอก ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เป็นรายการใหญ่ เป็นเหมือนของจริงที่ผู้เล่นหลายๆ คน ต้องการลงล่น และ พิสูจน์ตัวเอง ซึ่งก็ทำให้การแข่งขันในทีม สูงขึ้นไปด้วย และ ส่วนตัวผมก็พยายามผลักดันตัวเองเพื่อขึ้นไปเทียบเท่ากับผู้เล่นรุ่นพี่ หรือ อย่างน้อยให้ใกล้เคียงที่สุด ก็เป็นอะไรที่ท้าทายตัวเองดีเหมือนกันครับ”
“ตอนนี้ก็มั่นใจครับ จากผลงานสโมสรก็ส่วนหนึ่ง ที่ทำให้ผมมั่นใจมาเรื่อยๆ และ พอเห็นชื่อตัวเองติดทีมชาติ ก็ทำให้มั่นใจมากขึ้นไปอีก ที่สำคัญ ตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา ผมก็รู้สึกโตขึ้นด้วย จากเมื่อก่อนใจร้อน ก็ควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น และ รู้ว่าสิ่งไหนควรทำหรือไม่ทำครับ”
“จริงๆ ทุกครั้งที่มีโอกาส ก็สำคัญหมดครับ แต่พอครั้งนี้ เป็นฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ผมก็รู้สึกว่าสำคัญกับผมมากครับ ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสดูแต่พี่ๆ ลงเล่นรายการนี้ ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ก็รู้สึกว่าสักครั้งในชีวิตของเด็กบ้านนอกอย่างผม ถ้ามีโอกาสสัมผัสบ้าง คงเป็นอะไรที่ประสบความสำเร็จ และ เป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่ามากครับ”
“ก็จะพยายามทำงานของผมทุกวันให้เต็มที่ที่สุด และ พยายามทำให้โค้ชเห็นครับ อันดับแรก ก็หวังว่าจะมีชื่อติดทีมไปสู้ต่อในแคมป์ที่ 2 ก่อน และ จากนั้นก็จะพยายามทำงานหนักมากขึ้น เพื่อมีชื่อติดทีมไปเล่นที่ ยูเออี ให้ได้”
“ยืนยันว่าส่วนตัวผมเกินร้อยแน่นอนครับ เหนือสิ่งอื่นใด ผมอยากขอบคุณทุกคนที่คอยสนับสนุนผมมาตลอด โดยเฉพาะครอบครัว และ คนรอบข้างที่รู้จัก ถ้าไม่มีกำลังใจเหล่านั้น ผมก็อาจจะมาไม่ถึงจุดนี้ และ หวังว่าจะเป็นกำลังใจให้ พี่ๆ น้องๆ ในทีมชาติไทย ชุดนี้ด้วยครับ” ปวีร์ ปิดท้าย
