การแข่งขัน รีโว่ ไทยลีก 2021/22 นัดที่ 12 ประจำวันพุธที่ 10 พ.ย. เกมระหว่าง “พิฆาต” พีที ประจวบ เอฟซี เปิดบ้าน สนาม สามอ่าว สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือน ของ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี แข่งขันเวลา 18.00 น.
11 ผู้เล่นคนแรก ของ พีที ประจวบ เอฟซี ประกอบไปด้วย ขวัญชัย สุขล้อม (GK), เอกณัฏฐ์ คงเกตุ, พีฬาวัฒน์ อรรคธรรม, อัดนาน โอราโฮวัช, สหรัฐ ปองสุวรรณ, ซีเกด หมาดปูเต๊ะ, ประสิทธิ์ จันทุม, อภิชาติ เด็นหมาน, ถิรายุ บรรหาร, เมธี สาระคำ, วิลเลี่ยม โมต้า
ส่วน 11 เล่นคนแรก ของ ชลบุรี เอฟซี ประกอบไปด้วย ชนินทร์ แซ่เอียะ (GK), ทรงชัย ทองฉ่ำ, จูเนียร์ เอลด์สตอล, เรนาโต้ เคลิช, ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์, กฤษดา กาแมน, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, รังสรรค์ วิรุฬห์ศรี, เสฏฐวุฒิ วงค์สาย, จิดี้ คานยุค, เดนนิส มูริลโล
เปิดฉากมาในครึ่งแรก ชลบุรี เอฟซี เปิดเกมบุกใส่ พีที ประจวบ เอฟซี ทันที ซึ่งมีโอกาสได้สร้างจังหวะจบสกอร์ 2 ครั้งติดต่อกัน จาก เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ และ จิดี้ คานยุค แต่ยังเป็นแค่ลูหวาดเสียว
อย่างไรก็ตามเกมรุกของ พีที ประจวบ เอฟซี เมธี สาระคำ เปิดจากฝั่งขวาไปในกรอบเขตโทษ อภิชาติ เด็นหมาน ได้พุ่งเข้าชาร์ต แต่จังหวะนี้โดนไม่ดีนักบอลออกไป
นาทีที่ 7 ชลบุรี เอฟซี พลาดโอกาสได้ประตูขึ้นนำอย่างเหลือเชื่อ เกมโต้กลับ ทางฝั่งขวา จิดี้ คานยุค เปิดออกมาทางซ้าย เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ จับหนึ่งจังหวะก่อนล็อคเข้าขวา แต่ยิงไม่ดีบอล บอลออกหลัง
ผ่าน 15 นาทีแรก เจ้าบ้าน เริ่มตั้งเกมได้ เปิดฉากทำเกมบุกใส่ ชลบุรี เอฟซี บ้าง ซึ่งก็มีจังหวะได้ลุ้น 2-3 จังหวะแต่ยังไม่เฉียบคม สกอร์ยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0 นาทีที่ 24 ชลบุรี เอฟซี ต้องมีการปรับทัพอย่างรวดเร็ว เมื่อ เสฏฐวุฒิ วงค์สาย มีอาการบาดเจ็บ เล่นต่อไม่ไหว ต้องเปลี่ยนเอา พิทักษ์ พิมพ์แป้ ลงเล่นแทน
เกมยังคงเปิดแลกหมัด ผลัดกันรุก ผลัดกันรับ อย่างสนุก แต่ดูเป็น เจ้าบ้าน พีที ประจวบ เอฟซี ที่มีโอกาสลุ้นประตูมากกว่า เกมทำท่าจะจบลงด้วยการเสมอกัน 0-0 ในครึ่งแรกอยู่แล้ว
แต่แล้ว ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย ชลบุรี เอฟซี ก็มาพังประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ เดนนิส มูริลโล ที่พยายามชิงบอลจากแนวรับ พีที ประจวบ เอฟซี ก่อนที่บอลจะมาเข้าทาง จิดี้ คานยุค ที่วิ่งเข้ามาในกรอบเขตโทษ จับหนึ่งจังหวะแล้วยิงเข้าไปอย่างสวยงาม ก่อนจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังเปิดเกมมา เจ้าถิ่น พีที ประจวบ เอฟซี โหมบุกใส่ ชลบุรี เอฟซี อย่างต่อเนื่อง หวังทำประตูตีเสมอให้ได้ เล่นเอาทีมเยือน ต้องถอยลงไปรับในแดนแน่น
ชลบุรี เอฟซี ปรับแทคติกด้วยการเปลี่ยนตัวสำรองทีเดียว 3 คนรวด โดยถอดเอา พิทักษ์ พิมพ์แป้, จิดี้ คานยุค และ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ออก แล้วส่ง ชิษณุพงษ์ โชติ, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ และ บุคฆอรี เหล็มดี ลงเล่นแทน
เกมที่ พีที ประจวบ เอฟซี ยังคงบุกหนัก แต่ต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คนเท่านั้น เมื่อ วิลเลียน โมต้า ไปชักศอกใส่ ทรงชัย ทองฉ่ำ ซึ่งเมื่อผู้ตัดสินเช็คจาก VAR ยืนยัน ชูใบแดง ไล่ออกจากสนามไป
แม้ตัวผู้เล่นจะน้อยกว่า เจ้าถิ่น ยังคงบุกใส่ ชลบุรี เอฟซี เช่นเดิม แต่ยังเจาะแผงเกมรับ “ฉลามชล” ที่ลงไปรับ 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่เข้า
เกมดำเนินมาถึง นาทีที่ 82 เกมโต้กลับ ของ ชลบุรี เอฟซี ไม่ได้ประตูหนีห่าง 2-0 น่าเสียดาย เมื่อ เดนนิส มูริลโล ยิงเข้าประตูไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นลูกล้ำหน้า
จนกระทั่งนาทีที่ 86 เอกณัฏฐ์ คงเกตุ ชิงจังหวะโหม่งประตูตีเสมอให้กับ กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮกันลั่น สกอร์กลับมาเสมอกันที่ 1-1
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ชลบุรี เอฟซี ที่เปิดเกมบุกเข้าใส่ ทันทีหลังเสียประตูตีเสมอก็มาได้ประตูชัยจนได้ เมื่อ ยู พยองซู โหม่งเล่นทางไปให้ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ สอดขึ้นไปยิงเข้าประตูไป ในนาทีที่ 90+5 เป็นประตูชัยให้ ชลบุรี เอฟซี บุกมาเอาชนะ พีที ประจวบ เอฟซี ได้สำเร็จ 2-1 คว้า 3 คะแนนไปครอง
โดยโปรแกรมนัดต่อไป ชลบุรี เอฟซี จะกลับไปเล่น ที่ ชลบุรี สเตเดี้ยม พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ศึก รีโว่ ไทยลีก นัดที่ 13 วันเสาร์ที่ 13 พ.ย.นี้ เวลา 19.00 น.
