เอกนิษฐ์ ปัญญา แนวรุก ทีมชาติไทย เปิดใจกับโอกาสหวนติดทัพช้างศึกอีกครั้ง ในเกมอุ่นเครื่องระดับ FIFA International ‘A’ Match ในฟีฟ่า เดย์ กับ เนปาล และ ซูรินาม หลังก่อนหน้านี้เคยบาดเจ็บหนัก และห่างหายจากทีมชาติไปร่วมปีกว่า
ดาวเตะวัย 22 ปี มีชื่อติดทัพช้างศึก ครั้งล่าสุดในยุค อากิระ นิชิโนะ ชุดทำศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง เมื่อปี 2020 โดยแจ้งเกิดเต็มตัว เมื่อเป็นผู้ยิงประตูช่วยทีมชนะ ทีมชาติสหรัฐ อาหรับเอมิเรตส์ 2-1 ในรายการดังกล่าว แต่กลับโชคร้าย เมื่อได้รับบาดเจ็บหนัก และต้องเข้ารับการผ่าเข่าที่ใช้เวลาพักฟื้นหลายเดือน
อย่างไรก็ตามแม้จะกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง แต่ยังคงโดนอาการบาดเจ็บรบกวนมาตลอด กระทั่งส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่น และความสม่ำเสมอในการลงสนามให้ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ต้นสังกัดใน รีโว่ ไทยลีก ที่ตกเป็นสำรอง ก่อนจะถูกปล่อยให้ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ยืมใช้งานในซีซั่นนี้ จนสามารถเรียกฟอณืมเก่งกลับมาได้อีกครั้ง
“ช่วงที่เจ็บหนักไปในตอนนั้นมีผลที่ทำให้ผมกลับมาทำผลงานได้ไม่ดีเหมือนเดิม ฟอร์มที่เคยเล่นได้ดีก่อนหน้านั้นมันหายไปหมด ถือเป็นช่วงที่เจ็บหนักที่สุดในชีวิตที่ผ่านมาของผมเลยก็ว่าได้” เอกนิษฐ์ เล่าย้อนถึงอาการบาดเจ็บหัวเข่าที่กระทบต่อฟอร์มในสนาม
“ผมต้องใช้เวลาในการปรับตัวเองอยู่นานทั้งเรื่องของสภาพร่างกาย และสภาพจิตใจกว่าที่จะกลับมาได้อีกครั้งหนึ่ง ช่วงนั้นผมพยายามจะฟื้นฟูสภาพร่างกายของตัวเองให้ได้มากที่สุด แต่ตอนที่เจ็บไปผมไม่ได้คิดอะไรมาก คิดแค่ว่าพยายามรักษาตัวเองจากอาการบาดเจ็บ ดูแลร่างกายตัวเองเพื่อกลับมาให้แข็งแกร่งกว่าเดิม”
“อาการบาดเจ็บมีผลมากที่ทำให้ผมทำผลงานในสนามได้ไม่เต็มที่ ผมไม่สามารถเล่นได้เต็มที่เหมือนเดิมในตอนกับ เชียงราย ในปีที่ผ่านมา หลังจากเจ็บไปครั้งนั้นก็มีอาการบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ ตามมาบ่อยๆ หลายครั้งทำให้ผมไม่ค่อยได้ลงสนามจนฟอร์มเก่าค่อยๆ เริ่มหายไป ซึ่งการเจ็บแต่ละครั้งมันเจ็บที่ใหม่ไม่ใช่ที่เดิมด้วย”
เอกนิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงการถูก ลีโอ เชียงรายฯ ปล่อยให้ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ยืมใช้งาน ซึ่งกำลังหนีตกชั้นในเวลานี้ว่า “ผมไม่เสียดายนะครับ ที่ไม่ได้อยู่เล่นกับ เชียงราย แล้วถูกปล่อยมาเล่นกับ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด เพราะผมมองว่า มันเป็นสิ่งที่โอเคกับการที่เราจะได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่อง จนสามารถเรียกความมั่นใจได้มากขึ้นจากการที่ผมได้มีโอกาสลงเล่นตลอด ความมั่นใจของผมเริ่มกลับมาจนทำผลงานได้ดี”
“ผมดีใจที่มีชื่อกลับมาติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่อีกครั้ง ผมไม่ได้รู้สึกกดดันกับโอกาสพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในการติดทีมหนนี้ และถ้ามีโอกาสได้ลงสนามไม่ว่าจะเป็นเกมกับ เนปาล หรือ ซูรินาม ผมก็อยากจะทำให้เต็มที่” เอกนิษฐ์ กล่าวทิ้งท้าย
