ส.บอลไทยแชร์การใช้VARให้สมาชิกอาเซียน

สมาคมฯ โดยพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมฯ เข้าร่วมประชุมสภากรรมการบริการของสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ) โดยมีวาระการนำเสนอและแบ่งปันประสบการณ์ในการนำ VAR มาใช้ในลีกในประเทศ นำเสนอโดยผู้แทนจากออสเตรเลีย และประเทศไทย

โดยหลังจากที่เอเอฟเอฟ แสดงความสนใจจะนำ VAR มาใช้ในทัวนาเมนต์การแข่งขันระดับภูมิภาคที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สภากรรมกรรมการบริหารของสหพันธ์​ จึงเชิญให้ชาติสมาชิกที่มีการใช้งาน VAR ในลีกระดับประเทศได้นำเสนอแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ก่อนที่สหพันธ์จะมีการดำเนินการประสานงานกับฟีฟ่าเพื่อขอใช้ตามขั้นตอนต่อไป

โดยหลังการประชุม นายพาทิศ​ ศุภะพงษ์ ได้กล่าวว่า “เป็นเรื่องที่ดีและน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งกับการนำ VAR มาใช้ในรายการที่สหพันธ์จัด โดยวันนี้ไทยได้รับโอกาสนำเสนอต่อประเทศสมาชิกในอาเซียน ให้ได้ทราบถึงขั้นตอนต่างๆ ข้อดี ข้อที่ต้องปรับปรุง อุปสรรค ที่เราได้ผ่านมาและยังต้องทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาให้ดีขึ้นต่อไป ถึงวันนี้ฟุตบอลไทยลีกนั้นก็ได้ใช้ VAR ไปมากกว่า 300 แมตช์แล้ว”

“ความร่วมมือ ความพร้อมขั้นพื้นฐาน และการยอมรับจากทุกๆฝ่าย เป็นเรื่องที่ผมได้นำเสนอต่อสภากรรมการว่าสำคัญมากๆ VAR จะสามารถนำมาใช้ได้ก็ต่อเมื่อตัวสนามแข่งขัน (Stadium Infastructure) ระบบเทคโนโลยี ระบบสายสัญญาณเช่ือมต่อ ระบบวิทยุสื่อสาร ต้องพร้อมในระดับหนึ่ง รวมถึงต้องมีผู้ให้บริการที่มีประสบการณ์ช่วยเหลือ”

“ไทยลีกได้รับความร่วมมือจากผู้บริหารสโมสรเป็นอย่างดี ในการปรับปรุงแก้ไขสนามที่สโมสรใช้งาน เพื่อให้สนามเหย้านั้นๆ สามารถติดตั้งกล้องและระบบ อำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อสัญญาณไฟเบอร์ใยแก้ว กลับมายังห้องปฏิบัติการที่สำนักงาน จนเราสามารถใช้ VAR ได้ครบ 16 สโมสรในไทยลีก ก่อนหน้านั้นยังต้องมีการฝึกอบรมให้ผู้ตัดสินอีกหลายเดือนล่วงหน้า เพื่อให้ผู้ตัดสินได้รับไลเซนส์จากฟีฟ่า”

“ยิ่งได้รับฟัง การแชร์ปัญหาและอุปสรรคจากลีกออสเตรเลีย ซึ่งในช่วงแรกๆ ก็เหมือนกับไทยลีก เพราะทั้งสองสมาคมฯ เลือกใช้รูปแบบการวางระบบสายส่งสัญญาณสดๆ จากทุกสนามวิ่งมายังศูนย์ปฏิบัติการที่เดียว จึงมีโอกาสที่ภาพและสัญญาณจะขาดหายไปในบางช่วง ซึ่งตรงนี้ก็ได้มีการแก้ไข ตรวจสอบ ซ่อมบำรุง จนปัญหาแบบนี้ได้ลดน้อยลงไปมากในปีที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนี้สภากรรมการบริหารสหพันธ์จะมีการประสานไปยังฟีฟ่า และนัดหมายกับประเทศสมาชิก รับทราบขั้นตอนที่สำคัญ สำหรับการนำมาใช้ในทัวนาเมนต์ของสหพันธ์ต่อไป”