"เดอะ แรบบิท" เปิดบ้าน บีจี สเตเดี้ยม อัด ชลบุรี เอฟซี 4-1 นัดส่งท้ายไทยลีก 2021-22
ที่สนามบีจี สเตเดี้ยม เป็นการแข่งขันฟุตบอลไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก 2021-22 นัดที่ 30 หรือนัดสุดท้ายของฤดูกาล ทัพ "เดอะ แรบบิท" บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เปิดบ้านพบกับ ชลบุรี เอฟซี โดยเกมนี้ บีจีพียู นำโดย ประสิทธิ์ ผดุงโชค ที่ได้รับโอกาสลงเฝ้าเสาอีกครั้ง ด้านแนวรับมี อิรฟาน ฟานดี้ และ วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ ยืนคุมเกมรับ แดนกลางมีกัปตันทีมอย่าง พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ สารัช อยู่เย็น และเชาว์วัตน์ วีระชาติ และสามประสานแดนหน้ามี ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ เจนรบ สำเภาดี และสุมัญญา ปุริสาย
เกมในครึ่งแรก เป็น บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ได้เขี่ยบอลเริ่มเล่นก่อน โดยในนาทีที่ 5 เชาว์วัตน์ วีระชาติ ได้ลองปั่นจากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งตรงกรอบแต่ว่าเบาเกินไป ทำให้ ทัตพิชา อักษรศรี รับเข้าซองสบาย นาทีที่ 8 ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ ได้ลากบอลจี้แนวรับชลบุรี ก่อนจะตัดเข้าในแล้วยิงทันที แต่ว่าบอลก็ยังไปตรงตัวของผู้รักษาประตู
นาทีที่ 9 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พลาดโอกาสทำประตูขึ้นนำ จากโอกาสของ ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ ที่ได้เลี้ยงบอลจี้แนวรับอีกครั้ง และล็อคหลบหนึ่งจังหวะแล้วซัดทันที ทว่าบอลนั้นพุ่งไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 22 จากลูกเตะมุมที่บอลทะลักไปยังเสาสอง เจนรบ สำเภาดีได้ซัดในกรอบเขตโทษ บอลพุ่งกำลังจะเสียบตาข่าย แต่มีแนวรับของ ชลบุรี เอฟซี ที่โหม่งสกัดบอลเส้นได้ทันควัน
นาทีที่ 29 ชลบุรี เอฟซี ได้ลุ้น จากจังหวะที่ ฟาอิค โบลเกียห์ เปิดบอลให้ เดนนิส มูริลโล่ ได้โหม่งในกรอบเขตโทษ แต่บอลก็พุ่งไปตรงตัวของ ประสิทธิ์ ผดุงโชค จนกระทั่งนาทีที่ 43 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ก็ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ จักพัน ไพรสุวรรณ ได้เปิดจากทางกราบขวาของกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเข้าไปบริเวณหน้าปากประตู จูเนียร์ เอลด์สตอล ของชลบุรี เอฟซี พยายามเข้าไปสกัดบอล แต่บอลผิดเหลี่ยมพุ่งเข้าประตูไป ก่อนเกมในช่วงครึ่งแรก สกอร์จบลงด้วยสกอร์นี้
เกมกลับมาเล่นกันต่อในช่วงครึ่งหลัง นาทีที่ 49 เชาว์วัตน์ วีระชาติได้ครอสบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ และเป็น เจนรบ สำเภาดี ที่ได้ขึ้นโหม่ง แต่ว่าบอลนั้นพุ่งออกหลังไป อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 51 ชลบุรี เอฟซี มาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 จากจังหวะที่ ประสิทธิ์ ผดุงโชค ออกมาคว้าบอลผิดพลาด ทำให้บอลทะลักไปเข้าทาง จิดี้ คานยุค ได้ยิงโล่งๆ เข้าประตูไป
นาทีที่ 57 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เปลี่ยนตัวผู้เล่น โดยส่ง ธีรศิลป์ แดงดา และ ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้ ลงไปเล่นแทนที่ของ ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ และเจนรบ สำเภาดี นาทีที่ 63 จากจังหวะบอลยาวไปยังกรอบเขตโทษของ จักพัน ไพรสุวรรณ ไปถึง ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้ ที่ได้โหม่งหลบผู้รักษาประตู ก่อนจะสับไกทันที แต่บอลนั้นพุ่งเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 66 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่ ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้ ได้รับบอลทางกราบซ้าย ก่อนจะเลี้ยงบอลจี้แนวรับของชลบุรี เอฟซี แล้วผ่านบอลไปในกรอบเขตโทษ และเป็น พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ ที่ได้ยิงด้วยซ้ายเข้าประตูไปอย่างสวยงาม นาทีที่ 67 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เปลี่ยนตัวผู้เล่น โดยส่ง อภิสิทธิ์ โสรฎา ลงไปเล่นแทนที่ของ พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์
นาทีที่ 73 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้จุดโทษจากการที่ ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้ โดนทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ ก่อนจะเป็น วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ ที่ซัดเข้าไปไม่เหลือ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด หนีห่าง 3-1 นาทีที่ 78 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เปลี่ยนตัวผู้เล่น โดยส่ง ณัฐพล วรสุทธิ์ และ ชาตรี ฉิมทะเล ลงไปเล่นแทนที่ของ สุมัญญา ปุริสาย และ ศราวุธ เกิดศรี
นาทีที่ 86 บีจีพียู หนีห่างเป็น 4-1 จากจังหวะที่ สารัช อยู่เย็น ได้ตักบอลจากบริเวณกลางสนาม ให้กับ ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้ ได้พิงในกรอบเขตโทษ ก่อนจะได้ซัดบอลเต็มแรง บอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม นาทีที่ 90+2 จากบอลสองของจังหวะลูกเตะมุม บอลถูกสกัดมาเข้าทาง ชาตรี ฉิมทะเล ได้วิ่งเข้ามาวอลเลย์ด้วยขวา บอลพุ่งหลุดกรอบไปเพียงนิดเดียว
ก่อนที่ในช่วงเวลาที่เหลือจะไม่มีประตูเพิ่มขึ้น จบเกม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ ชลบุรี เอฟซี 4-1 เก็บเพิ่มเป็น 60 คะแนน ปิดฉากไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก 2021-22 ด้วยการรั้งเป็นอันดับสอง
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด : ประสิทธิ์ ผดุงโชค (ผู้รักษาประตู), จักพัน ไพรสุวรรณ, อิรฟาน ฟานดี้, วิคเตอร์ คาร์โดโซ่, ศราวุธ เกิดศรี (ชาตรี ฉิมทะเล น.78), สารัช อยู่เย็น, เชาว์วัตน์ วีระชาติ, พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ (หัวหน้าทีม) (อภิสิทธิ์ โสรฎา น.67), ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ (ธีรศิลป์ แดงดา น.57), เจนรบ สำเภาดี (ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้ น.57), สุมัญญา ปุริสาย (ณัฐพล วรสุทธิ์ น.78)
ชลบุรี เอฟซี : ทัตพิชา อักษรศรี (ผู้รักษาประตู), กฤษดา กาแมน, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ (หัวหน้าทีม), ฟาอิค โบลเกียห์, จูเนียร์ เอลด์สตอล, สหรัฐ สนธิสวัสดิ์, จิดี้ คานยุค, เดนนิส มูริลโล่, จักรพงษ์ แสนมะฮุง, บุคฆอรี เหล็มดี, เรนาโต้ เคลิช