ณ โรงแรม นัม ควง ฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตบอลชาย ในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ ประเทศเวียดนาม จัดงานแถลงข่าวความพร้อมก่อนการแข่งขันฟุตบอลชาย รอบรองชนะเลิศ คู่ระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ทีมชาติอินโดนีเซีย
โดยทีมชาติไทย ส่ง มาโน โพลกิ้ง พร้อมกับ วสพล แก้วผลึก เข้าร่วมการแถลงข่าวครั้งนี้
มาโน โพลกิ้ง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า "มาถึงรอบรองแล้วฯ มันไม่สำคัญว่าเราจะเจอกับใคร เพราะว่าสี่ทีมที่เข้ารอบมาเป็นทีมที่ดี แต่ที่สำคัญคือเราเป็นแชมป์กลุ่ม ทำให้เราไม่ต้องเดินทางไปไกล เพื่อไปแข่งสนามอื่น และสนามนี้เราได้เล่นมาสี่นัด มันดีสำหรับเราที่ได้อยู่ที่เดิม และเล่นได้รอบรองฯ ที่นี่"
"นักเตะของเราเป็นนักเตะที่มีคุณภาพและทำผลงานได้ดี พวกเขาเป็นอนาคตที่ดีสำหรับทีมชาติไทย ส่วนสถิติไม่ได้สำคัญ เพราะยุคนี้ อินโดนีเซีย มีอนาคตที่ดี และแข็งแกร่งมาก หลายคนได้เล่นในชุดใหญ่ สำหรับทีมชุดนี้ มีความเข้าใจกัน เล่นกันเป็นทีม มีทัวร์นาเมนต์ได้เล่น สำหรับเรามันเป็นเกมที่ยากกว่าเกมที่ผ่านๆมา แต่ว่าเราจะสามารถเล่นได้ด้วยฟอร์มที่ดีเหมือนกับรอบแบ่งกลุ่มได้อีกครั้งในเกมนี้"
"อินโดนีเซียชุดนี้รวมตัวกันมานาน พวกเขาเข้าใจกัน เล่นบอลหนัก มีเกมรุกที่ดุดัน วางแผนดี มีระบบที่ดี ไม่มีใครเด่นเป็นพิเศษ จุดแข็งของเขาคือการเล่นเป็นทีม"
"ในส่วนนักเตะลูกครึ่งหลายๆคน และคนที่เล่นในต่างประเทศ ก็มีส่วนทำให้ทีมมีความแตกต่าง อย่าง อินโดนีเซีย ก็มี อัสนาวี แบ็คขวาที่เล่นในลีกเอเชีย เป็นนักเตะที่ดี และก็ติดโทษแบนในเกมนี้ เขาสร้างความแตกต่างได้ ของเราก็เช่นกัน ทั้งเบน เดวิส นักเตะคนอื่นที่เล่นในลีกต่างแดน ทำให้เกิดการพัฒนา เพราะลีกต่างประเทศ แข็งแกร่งได้ประสบการณ์มากมาย ทำให้เกิดสมดุลมากขึ้น ตรงนี้สำคัญสำหรับนักกีฬา"
"ตัวผมได้มอบหมายให้มาคุมซีเกมส์ พอซีเกมส์จบ ผมก็ต้องโฟกัส ทีมชาติชุดใหญ่ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับ U23 แต่ผมจะดูชุดใหญ่เป็นหลัก"
"มันเป็นเรื่องดีที่มีแฟนบอลเต็มสนาม เป็นบรรยากาศที่ดีสำหรับฟุตบอล แฟนบอลที่นี่ ที่นัม ดินห์ ประเทศเวียดนาม ทำให้บรรยากาศออกมาสนุก ส่วนเรื่องการต่อเวลา จุดโทษ ถ้าไปถึงตรงนั้นก็แปลว่าเกมมันสูสี แต่แน่นอน เราอยากให้จบใน 90 นาที แต่หากต้องยืดเยื้อเราก็พร้อม ส่วนความคิดเห็นแฟนบอลอินโดนีเซีย ที่มองว่าทีมยังไม่ดีเหมือนที่ผ่านมา ผมคิดว่าพวกเขาทำได้ดี และนักเตะก็เล่นเป็นทีม แต่ผมมั่นใจในทีมชาติไทย หลังจากที่ผ่านเกมแรก เราเล่นได้ตามแผน เชื่อว่าเราดีพอที่จะผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ได้"
"แน่นอนว่า คู่ต่อสู้ที่เราจะเจอเป็นทีมที่ดี หากเรายังมีข้อผิดพลาดเราจะถูกลงโทษ แต่เราพยายามปรับปรุงและแก้ไข ซึ่งเราต้องเรียนรู้ มันเป็นแบบนี้ การจะทำทีมให้ดีก็ต้องเรียนรู้จากข้อผิดพลาด เราต้องเรียนรู้และแก้ไขทำให้ดีในนัดต่อไป"
สำหรับ ฟุตบอลชายทีมชาติไทย จะต้องพบกับ อินโดนีเซีย ที่ เทียน ตรวง สเตเดียม วันที่ 19 พฤษภาคม 2565 เวลา 16.00 น. ถ่ายทอดสดทาง TV5 Hd1