มาโน โพลกิ้ง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย หวังเก็บประสบการณ์จากความผิดพลาดไปแก้ไขในปีหน้า หลังพ่าย อุซเบกิสถาน 0-2 ในเอเชียน คัพ 2023 รอบคัดเลือก กลุ่มซี นัดสาม
ช้างศึก การันตีเข้ารอบสุดท้ายไปแล้วก่อนเจอกับ อุซเบกิสถาน โดยเกมนี้ปรับเปลี่ยนผู้เล่นบางตำแหน่ง แต่โดนยิงขึ้นนำ 0-2 ตั้งแต่ครึ่งเวลาแรก ก่อนจบเกมด้วยสกอร์ดังกล่าว
"อย่างแรกต้องขอแสดงความยินดีกับชัยชนะของ อุซเบกิสถาน พวกเขาเป็นทีมที่ดี และสมควรเป็นผู้ชนะในวันนี้" มาโน ให้สัมภาษณ์หลังจบการแข่งขัน
"สิ่งสำคัญสำหรับเราคือการได้เรียนรู้ว่า เรามีเวลาหนึ่งปีที่จะแก้ไขสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้นก่อนถึงการเล่น เอเชียน คัพ ในปีหน้า เราต้องนำทุกสิ่งที่เรียนรู้จากเกมนี้ไปพัฒนาให้แกร่งกว่าเดิม โดยเฉพาะการเปลี่ยนจากเกมรุกเป็นรับ ซึ่งเราโดนทีมแกร่งอย่าง อุซเบกิสถาน โต้กลับเร็วหลายจังหวะ"
"ส่วนเกมรุกผมมองว่า เราทำได้ดีกว่านี้ แต่ต้องไม่ลืมว่าเป้าหมายที่ชัดเจนของเราคือการเข้ารอบสุดท้าย ซึ่งเราทำสำเร็จไปแล้วก่อนถึงเกมนี้ ซึ่งเราจะนำข้อผิดพลาดไปพัฒนาต่อไป โดยในปีหน้าเราจะได้ผู้เล่นหลักๆ 12 คน กลับมาที่จะช่วยให้แข็งแกร่งกว่าเดิม"
ผู้สื่อข่าวถามถึงการประกบ เอลมาร์ โชมูโรดอฟ กองหน้า จาก อาแอส โรมา ที่ช้างศึก พยายามป้องกันเต็มที่ โดย มาโน โพลกิ้ง กล่าวว่า
"แน่นอน รวมถึงผู้เล่นเบอร์ 10 เป็นนักเตะที่อันตราย เราพยายามหยุดเขาในเกมนี้ แต่เรายังต้องแก้ไขในการเปลี่ยนจากเกมรุกเป็นรับให้ดีกว่าเดิม เขาเป็นนักเตะที่มีคุณภาพ มีความเร็วสร้างความเสียหายให้เราได้"
"ส่วนการเปลี่ยนผู้เล่นถึง 4 คน หลังจบครึ่งแรกก็เพราะยังไม่ดีพอ ต่องขอชมผู้เล่นทั้ง 4 คน ที่ลงไปทำได้ดี แก้ไขเกมได้ดีกว่าในครึ่งแรก"
"เราไม่อยากนำเรื่องเวลาการเตรียมทีมที่น้อยมาเป็นข้อแก้ตัว แต่จากนี้เราต้องนั่งคุยกันทุกฝ่ายเพื่อหาทางให้มีเวลาเตรียมทีมที่ดี แก้ไข และวางแผนที่ดีเพื่ออนาคตของทีมชาติไทย ซึ่งเรายังมีเวลา"
"เรารู้อยู่แล้วว่า จะเป็นเกมที่ยากสำหรับเรา แต่พวกเราก็สู้เต็มที่พยายามทำให้ดีที่สุด เล่นในเกมของเรา เขามีบอลยาว ซึ่งได้เปรียบผู้เล่นที่รูปร่างสูงใหญ่ดีกว่าเรา ก็หวังว่า ปีหน้าเราจะแก้ไขให้ดีกว่าเดิมที่จะเจอทีมที่แข็งแกร่งกว่าเราในเอเชียน คัพ ปีหน้า"
ทั้งนี้ทีมชาติไทย จบเอเชียน คัพ 2023 รอบคัดเลือก ด้วยตำแหน่งรองแชมป์กลุ่มซี ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายในฐานะอันดับ 2 ดีที่สุด 5 จาก 6 กลุ่ม