TOYOTA Thai League Team Of The Week ประจำสัปดาห์ที่ 4
11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2018 ประจำสัปดาห์ที่ 4
แผนการเล่น : 3-4-3
ประตู : ชนินทร์ แซ่เอียะ (ชลบุรี เอฟซี)
"ฉลามชล" เก็บ 3 แต้มนัดแรกได้สำเร็จในเกมนี้ต้องยกเครดิตให้แผงเกมรับทั้งหมด ที่ช่วยกันป้องกันจน ชนินทร์ รักษาคลีนชีทได้ แต่ส่วนหนึ่งก็ต้องชื่นชม "เจ้าบาส" ด้วยที่ทั้งคอยสั่งการ และออกมาตัดบอลสวยๆ หลายต่อหลายครั้ง รวมถึงจังหวะเซฟลูกยิงหลายๆ ครั้งของ ซิลวาโน่ คอมวาลิอุส ฟอร์มแจ่มแบบนี้ต้องขอยกตำแหน่งนายทวารยอดเยี่ยมให้เลย
กองหลัง : สหรัฐ ปองสุวรรณ (บางกอกกล๊าส)
ถือเป็นแบ็กซ้ายสไตล์รับอย่างแท้จริง ผลงานในการหยุด ปกรณ์ เปรมภักดิ์ และ นูรูล ศรียานเก็ม ของการท่าเรือ แบบอยู่หมัด เป็นการพิสูจน์ตัวเองว่า "เจ้าปลื้ม" มีดีกว่าที่เคยถูกปรามาสไว้ในตอนเล่นทีมชาติไทยชุดยู-21 แม้ไม่ค่อยเห็นการเติมเกมรุกด้านข้าง แต่บทบาทที่โค้ชสั่งให้ทำก็คือเน้นเกมป้องกัน และต้องยอมรับเลยว่านัดนี้เขาทำได้อย่างไร้ที่ติ
กองหลัง : อี วอน-ยอง (พัทยา ยูไนเต็ด)
แนวรับจอมเก๋าเลือดกิมจิโชว์ผลงานคุมแนวรับพัทยา ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการบล็อคลูกยิงของโรดริโก้ ทำให้ทีมไม่เสียประตูก่อนในช่วงต้นเกม และมีบทบาทเป็นเสมือนลูกพี่ใหญ่ในแนวรับให้กับทีม "โลมาสีน้ำเงิน" เรียกได้ว่า ราชนาวี เจาะยังไงก็ไม่ผ่านแนวรับพันธุ์ดุคนนี้ไปได้เลย จนมีส่วนให้ทีมเก็บชัยในท้ายที่สุด
กองหลัง : นัสตพล มาลาพันธ์ (ชลบุรี เอฟซี)
หลังสลัดอาการบาดเจ็บกลับมาลงสนามในนัดนี้ "เจ้าเอี้ยง" เติมเต็มแนวรับ "ฉลามชล" ได้อย่างลงตัวสุดๆ โดยเฉพาะการป้องกันลูกบอมบ์โด่งของ สุพรรณบุรี ที่พยายามเปิดเข้ามาให้ โรมูโล่ และ คอมวาลิอุส ลุ้นโหม่งประตู แต่ นัสตพล และแผงแนวรับ ชลบุรี ก็ช่วยกันสกัดเอาไว้ได้หมดจนทีมเก็บคลีนชีทพร้อมกับคว้า 3 แต้มแรกกลับออกไปได้ในที่สุด
กองกลาง : เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ (ชลบุรี เอฟซี)
ไม่ใช่แค่ว่าทำประตูได้แล้วเราถึงเลือกเข้ามาติดทีม แต่ "เจ้าก้อง" โชว์ฟอร์มเด่นเหลือเกินในเกมที่เป็นคนยิงประตูชัยเหนือ สุพรรณบุรี ทั้งจังหวะกระชากลากเลื้อยปั่นป่วนแนวรับเจ้าถิ่น มีการประสานงานสวยๆ กับคู่กองหน้าบราซิล และรุ่นน้องในแดนกลางอย่าง วรชิต ลูกตั้งแต่เองก็รับบทบาทสร้างความหวาดเสียวได้โดยตลอด ถ้าโชว์ฟอร์มแบบนี้ได้ต่อไปโอกาสในการกลับมาสวมเสื้อทีมช้างศึกไม่น่านานเกินรอ
กองกลาง : รัตนากร ใหม่คามิ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
เป็นเกมที่ไม่ต้องรับภาระในการช่วยเกมรับเยอะมากนัก เพราะ บุรีรัมย์ เป็นฝ่ายขึง พีที ประจวบ อยู่ข้างเดียว ทำให้ "เจ้าเกม" มีบทบาทขึ้นมาช่วยเกมรุกสวยๆ ได้หลายครั้ง ทั้งการกระชากถึงสุดเส้นก่อนปาดเข้าไปหน้าประตูให้เพื่อนเกือบยิงได้ มีจังหวะจ่ายทะลุช่องและประสานงานในแนวรุกได้ดี และประตูที่เขายิงปิดกล่องให้ "ปราสาทสายฟ้า" ก็เป็นการวิ่งเติมสอดหาช่องขึ้นมาได้อย่างยอดเยี่ยม
กองกลาง : มาริโอ ยูรอฟสกี้ (บางกอกกล๊าส)
ในเกมบิ๊กแมตช์นัดนี้ มาริโอ ยูรอฟสกี้ มีโอกาสสร้างสรรค์เกมสวยๆ มากมาย ในการลงสนามพบกับ การท่าเรือ เอฟซี ผลงานการแอสซิสต์ให้ เฟเดริก เมนดี้ และซัดเองอีกหนึ่งลูก ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำเร็จที่ทำให้ "กระต่ายแก้ว" คว้าชัยนัดแรกของฤดูกาลในรังสนามหญ้าจริงของตัวเอง แม้จะปล่อยโอกาสทำประตูเพิ่มหลุดลอยไปหลายครั้ง แต่หากเกมนี้ไม่ได้ มาริโอ บีจีอาจจะยังไม่ชนะใครต่อไปก็เป็นได้
กองกลาง : สุมัญญา ปุริสาย (แบงค็อก ยูไนเต็ด)
เป็นนักเตะไทยเพียงคนเดียวที่ยิงประตูได้ทุกนัดในไทยลีกฤดูกาลนี้ "เจ้าตั๊ก" แม้จะอายุ 31 ปีแล้วแต่สิ่งที่ยังไม่ลดหายไปคือความทุ่มเทยามลงสนามช่วยทีมทั้งเกมรุกและรับ และสิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือความนิ่งในการเชื่อมเกมต่อบอลแดนกลางและคอยหาจังหวะยิงประตู ผลงาน 4 นัด 4 ประตู ตอนนี้คงเข้าตาทีมงานของ มิโลวาน ราเยวัช ไปแล้วสำหรับการคัมแบ็คกลับมาติดทีม "ช้างศึก" อีกครั้ง
กองหน้า : แจ็คสัน โคเอลโญ่ (เอสซีจี เมืองทองฯ)
แม้จะไม่สามารถช่วยให้ทีมคว้าชัยได้ แต่ ชาช่า ทำประตูสุดสวยจากการวิ่งทำช่องให้ ชัปปุยส์ จ่ายทะลุให้ก่อนยิงเรียดยัดเสาแรกด้วยความเฉียบคม ในเกมที่คู่หูอย่าง เฮแบร์ตี้ ค่อนข้างเงียบ ชาช่า ต้องรับบทหนักในการถูกแนวรับ เชียงราย ตามประกบแจ แต่เขาก็ยังแสดงพิษสงให้เห็นอยู่เรื่อยๆ จนสามารถทำประตูที่ 2 ของฤดูกาลให้ตัวเองได้สำเร็จ
กองหน้า : มาร์ติน เอ็นจีว่า (สุโขทัย เอฟซี)
นัดนี้ ดาวเตะมาดากัสการ์ โดดเด่นที่สุดในสนามทุ่งทะเลหลวงจริงๆ เพราะมีส่วนร่วมกับแนวรุกให้ทีมอย่างมาก คอยปั่นป่วนแนวรับชัยนาทได้บ่อยครั้ง รวมถึงเป็นคนยิงประตูให้ทีมพลิกกลับมานำ และทำคนเดียวสองประตูให้ สุโขทัย ชนะ 4 เกมรวด จะว่าไป 2 ประตูในเกมนี้อาจจะดูน้อยไปด้วยซ้ำหากใครได้ชมเกม เอ็นจีว่า ควรจะยิงได้ซัก 3-4 ประตูขึ้นไปจากฟอร์มอันสุดยอดของเขา
กองหน้า : ดิโอโก หลุยส์ ซานโต (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
ดิโอโกยังคงเป็นศูนย์กลางในเกมรุกของ "ปราสาทสายฟ้า" เหมือนเดิม นัดนี้ทำไป 2 ประตูจากการเข้าฮอร์สและอีกหนึ่งจุดโทษ ซึ่งจริงๆ น่าจะยิงได้มากกว่านี้ด้วยซ้ำจากลูกฟรีคิกที่ปั่นไปชนคาน และอีกหนึ่งประตูก็เป็นการแอสซิสต์ของดาวเตะแซมบ้าคนนี้ที่จ่ายทะลุช่องอย่างเหนือชั้นให้ รัตนากร จิ้มจ่อๆ แค่ 6 หลาเท่านั้น
โค้ช : มาโน่ โพลกิ้ง (แบงค็อก ยูไนเต็ด)
พาทีมพลิกสถานการณ์หลังจากที่ตามอยู่ในครึ่งแรก 0-1 กลับมาแซงชนะไป 2-1 ด้วยการแก้เกมสไตล์ถนัดคือกลับมาใส่เกมรุกเต็มสูบเพื่อหวังยิงประตูให้ได้แล้วก็ทำได้สำเร็จ