สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี เสนอให้ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอล ชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี รอบสุดท้าย ในปี 2023 (AFC U17 Asian Cup)
ก่อนหน้านี้ เอเอฟซี ได้เลือก บาห์เรน ให้เป็นเจ้าภาพ ก่อนที่ บาห์เรน จะตัดสินใจถอนตัวจากการเป็นเจ้าภาพ
ล่าสุด พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ พร้อมด้วย พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมฯ ได้นำเสนอแผนการจัดการแข่งขัน ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ในปีหน้า ต่อผู้บริหารของเอเอฟซี ก่อนที่การประชุมสภากรรมการครั้งล่าสุด จะมีมติให้ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ โดยไทยจะถูกจัดอยู่ในตำแหน่ง 1 A โถ 1 ในฐานะเจ้าภาพ
สำหรับ ฟุตบอลรายการดังกล่าวถือเป็นการจัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนระดับสูงสุดของทวีปเอเชีย ต่อเนื่องจากการจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เมื่อปี 2020
โดย พิภพ อ่อนโม้ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย U17 กล่าวว่า "ถือเป็นเรื่องดีที่ประเทศไทย ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการนี้ เพราะมันคือข้อได้เปรียบทั้งในฐานะเจ้าภาพ ที่เราจะได้รับเสียงเชียร์จากแฟนบอลที่เข้ามาในสนาม รวมถึงการที่ไม่ต้องปรับตัว ไม่ต้องเดินทาง ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับฟุตบอล ณ ปัจจุบัน"
"แน่นอนครับว่าในช่วงที่ผ่านมา หลังผ่านไปสองทัวร์นาเมนต์ทั้งในศึกชิงแชมป์อาเซียน และ ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ทางทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ชก็มีการทำการบ้านมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทีมมีความพร้อมมากที่สุดสำหรับรายการนี้ และหลังจากที่ทราบว่าเราได้เป็นเจ้าภาพ เราเองก็วางแผนเตรียมการที่จะเตรียมทีมให้ดีที่สุดต่อไป"
"ฝากแฟนบอลชาวไทย เป็นกำลังใจให้ทีมชาติไทย U17 ด้วยนะครับ ผมเชื่อว่าทุกเสียงเชียร์จะเป็นพลังช่วยให้น้องๆ ทุกคนทำเต็มที่ และนำความสำเร็จและรอยยิ้มให้ประเทศไทยครับ"
สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ จะมี 16 ชาติเข้าร่วมการแข่งขัน ประกอบไปด้วย ไทย (เจ้าภาพ), ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, กาตาร์, ซาอุดิอาระเบีย, เยเมน, เวียดนาม, ออสเตรเลีย, ทาจิกิสถาน, อิหร่าน, อุซเบกิสถาน, เกาหลีใต้, จีน, อัฟกานิสถาน, อินเดีย และ สปป.ลาว
ซึ่งการแข่งขันจะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม และหาทีมแชมป์, รองแชมป์ และ อันดับ 3 และอันดับ 4 ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลเยาวชนโลกรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ที่ ประเทศเปรู ต่อไป
สำหรับ ทีมชาติไทย เคยเป็นเจ้าภาพรายการนี้ มาแล้วทั้งหมด 3 ครั้ง และเคยผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลเยาวชนโลก เมื่อปี 1997 ที่อียิปต์ และ 1999 ที่ นิวซีแลนด์