ปี พ.ศ.2565 กำลังจะผ่านพ้นไป ส่งต่อไปยังปีหน้าฟ้าใหม่กับ พ.ศ.2566 สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ก็ขออวยพรให้แฟนบอลทัพ "เดอะ แรบบิท" พบเจอแต่สิ่งดี ๆ กับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง และขอให้สิ่งไม่ดีผ่านพ้นไปพร้อมกับปีเก่า
แน่นอนว่าปี 2565 ที่ผ่านมาเกิดเรื่องราวมากมายในวิถีของฟุตบอลทั้งเรื่องดีและไม่ดี แต่สโมสรฯก็พร้อมที่จะเดินหน้าต่อเพื่อสร้างความสุขให้กับแฟนบอลทุกคน ด้วยการเตรียมความพร้อมและทำงานอย่างหนัก ก่อนที่การแข่งขันฟุตบอลไทยทั้ง 3 รายการจะกลับมาลงสนามอีกครั้งในช่วงเดือนมกราคม 2566
แต่ก่อนที่การแข่งขันในช่วงที่เหลือจะเริ่มขึ้นหลังปีใหม่ เราจะพาแฟนบอลทุกท่านไปย้อนชมเหตุการณ์สำคัญของสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่เกิดขึ้นในรอบปี 2565 ที่ผ่านมาว่ามีเหตุการณ์ใดที่น่าสนใจกันบ้าง
1.เข้ารอบ 8 ทีมศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ครั้งแรกของสโมสร
ปี 2022 สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ยังได้สิทธิ์เข้ารอบแบ่งกลุ่มศึกฟุตบอลถ้วยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอเชียอย่าง เอเอฟซี แชมเปี้ยส์ลีก ได้เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากฝากผลงานอันน่าประทับใจในปี 2021 ด้วยการผ่านเข้าถึงรอบ 16 ทีม ซึ่งเป็นการผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ได้เป็นครั้งแรกของสโมสรฯ ต่อมาปี 2022 ทัพ "เดอะ แรบบิท" ยังสานต่อความยอดเยี่ยมด้วยการผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน แต่ครั้งนี้ไปไกลกว่าเดิมด้วยการเดินทางถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย และนับเป็นสโมสรจากประเทศไทยทีมที่ 3 ที่สามารถผ่านเข้าถึงรอบนี้ น่าเสียดายที่เราไม่อาจต้านความแข็งแกร่งของเจ้าบ้านอย่าง อูราวะ เรด ไดมอนส์ ยอดทีมจากประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะพ่ายไป 0-4 ยุติเส้นทางเพียงแค่รอบ 8 ทีมในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2022 แต่ถึงอย่างไรนี่ก็นับเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ของสโมสรฯ ในฟุตบอลรายการนี้ และนับเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในปี 2565 ที่ผ่านมา
2.ป้องกันแชมป์ ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ ทีมแรกและทีมเดียว
อีกหนึ่งเรื่องน่ายินดีที่เกิดขึ้นในปี 2565 ของสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด คือการคว้าแชมป์แรกของปี ด้วยการคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยก่อนเปิดฤดูกาลอย่าง ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ ซึ่งเป็นการพบกันระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมทริปเบิ้ลแชมป์เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา พบกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ได้เล่นในฐานะรองแชมป์ลีก ซึ่งเป็นการเปิดหัวฤดูกาลใหม่ได้อย่างสนุกตื่นเต้นเร้าใจ ก่อนจะเป็นทัพ "เดอะ แรบบิท" ที่เอาชนะไปได้ 3-2 คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ และนับเป็นการคว้าแชมป์รายนี้ได้ 2 สมัยติดต่อกัน หลังจากในปี 2564 บีจี ปทุมฯ ในฐานะแชมป์ไทยลีก เอาชนะ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด แชมป์เอฟเอ คัพ 1-0 และหากนับตั้งแต่เปลี่ยนชื่อมาใช้ชื่อการแข่งขันไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด จะเป็นสโมสรแรกและสโมสรเดียวในตอนนี้ที่สามารถป้องกันแชมป์และสามารถคว้าแชมป์ได้ 2 สมัยติดต่อกัน
3.แฟนบอลกลับเข้ามาชมแบบ 100 เปอร์เซ็นต์
หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2019 ส่งผลเสียให้กับทุกภาคส่วนไม่เว้นแม้แต่วงการฟุตบอลที่ได้รับผลกระทบไปไม่น้อย โดยเฉพาะในเรื่องของแฟนบอลที่ถูกจำกัดการเข้าชมเพื่อลดการแพร่กระจายของโรคระบาด จากมาตรการไม่อนุญาตให้แฟนบอลเข้าชมในสนาม ค่อย ๆ ปรับให้สามารถเข้าได้ตามเปอร์เซ็นต์ตามความจุของแต่ละสนามหลังสถานการณ์เริ่มดีขึ้น จนก่อนเริ่มฤดูกาล 2022-23 หรือว่าในปี 2565 ทางฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตบอลไทยลีกจะประกาศให้แฟนบอลแต่ละสนามสามารถเข้าชมในสนามได้แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ นั่นทำให้บรรยากาศการเชียร์กลับมาคึกคักกันอีกครั้ง เช่นเดียวกับกระแสของฟุตบอลไทยกลับมาได้รับความนิยมมากขึ้น นี่จึงนับเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่ายินดีที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา
4.เปลี่ยนชื่อสนามเป็น บีจี สเตเดี้ยม
ปี 2565 สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด เริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนครั้งใหญ่ของสโมสรฯ หลังประกาศเปลี่ยนชื่อสนามเหย้าจากเดิมชื่อสนามลีโอ สเตเดี้ยม เปลี่ยนเป็น บีจี สเตเดี้ยม โดยได้รับการอนุมัติจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และ บริษัท ไทยลีก จำกัด ในฐานะฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตบอลภายในประเทศ และเริ่มใช้ชื่อสนามดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 หลังจากใช้ชื่อสนาม ลีโอ สเตเดี้ยม มากว่า 10 ปี ซึ่งสนามแห่งนี้นับเป็นความภาคภูมิใจของทัพ "เดอะ แรบบิท" เพราะเป็นสนาม ระดับ เอ คลาส ที่ได้รับการรับรองจากทางสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือ เอเอฟซี มีความจุทั้งหมด 10,114 ที่นั่ง และนอกจากจะเป็นสนามเหย้าของ บีจีพียู แล้ว สนามแห่งนี้ยังเคยใช้จัดการแข่งขันระดับนานาชาติของทีมชาติไทย รวมถึงฟุตบอลถ้วยรายการสำคัญของเมืองไทย โดยเฉพาะรายการล่าสุดอย่างศึก "เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ ไทยแลนด์ 2022"
5.เปิดใช้ บีจี เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ สนามซ้อมแห่งใหม่ครบวงจร
หลังจากได้ทำพิธีตอกเสาเข็มเพื่อสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งใหม่ของสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ไปเมื่อช่วงต้นปี 2563 ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะเปิดใช้งานได้ในปี 2564 แต่เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้แผนดังกล่าวต้องถูกเลื่อนออกไป จนในปี 2565 "บีจี เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์" ก็ถูกเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการเพื่อเป็นสนามฝึกซ้อมแบบครบวงจรของสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ประกอบด้วยสนามหญ้าจริงที่ใช้ในการฝึกซ้อมสามสนาม ห้องฟิตเนสเทรนนิ่ง ห้องพักนักกีฬาสำหรับการเก็บตัว ห้องเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวนักฟุตบอลสำหรับการแข่งขันและฝึกซ้อม ห้องประชุม ห้องรับรอง สำนักงานทางกีฬา ห้องวิเคราะห์ข้อมูลการแข่งขัน นอกจากนี้เป็นสนามฝึกซ้อมของทัพ "เดอะ แรบบิท" แล้ว บีจี เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ ยังได้รับการยอมรับจากนานาชาติใช้เป็นสนามที่ฝึกซ้อมไม่ว่าจะเป็นทีมชาติหรือว่าสโมสรชั้นนำที่เดินทางมาแข่งขันที่ประเทศไทย