TOYOTA Thai League Team Of The Week ประจำสัปดาห์ที่ 5
11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2018 ประจำสัปดาห์ที่ 5
แผนการเล่น : 3-4-3
ประตู : วรวุฒิ ศรีสุภา (การท่าเรือ เอฟซี)
เป็นตำแหน่งที่เลือกยากที่สุดในสัปดาห์นี้ เพราะมีนายทวารโชว์ฟอร์มเหนียวหนึบพอๆ กันไม่ว่าจะเป็น ฉัตรชัย บุตรพรม หรือ แซมมวล ป.คันนิ่งแฮม แต่เหตุที่เลือกนายด่านจากทีมสิงห์เจ้าท่า เพราะการคว้า 3 แต้มในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย จะทำไม่ได้เลยหาก "เจ้าปอนด์" ไม่โชว์ฟอร์มซูเปอร์เซฟแบบเหลือเชื่อได้หลายต่อหลายครั้ง พร้อมทั้งรักษาคลีนชีตได้สำเร็จอีกด้วย
กองหลัง : ศุภนันท์ บุรีรัตน์ (พัทยา ยูไนเต็ด)
กองหลัง : อัดนาน โอราโฮวัช (พีที ประจวบ)
เป็นอีกสัปดาห์ที่ปราการหลังชาวมอนเตเนโกร โชว์ฟอร์มได้เด็ดดวงจริงๆ โดยเฉพาะลูกกลางอากาศที่ช่วยป้องกันเกมรับได้อย่างไร้ที่ติ ยิ่งไปกว่านั้นเกมนี้ อัดนาน ทำ 2 แอสซิสต์ในจังหวะเตะมุมที่โหม่งถวายพานให้ อมร ธรรมนาม ทั้ง 2 ลูก แสดงให้เห็นว่าซุ่มซ้อมสูตรเตะมุมแบบนี้กันมาเป็นอย่างดี
กองหลัง : วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)
เป็นกองหลังที่เล่นลูกกลางอากาศได้ดีที่สุดคนหนึ่งในไทยลีกก็ว่าได้ รับบทบาทเป็นแม่ทัพในเกมรับให้กับทีม "กว่างโซ้ง" เสมือนพี่ใหญ่คอยสั่งการแผงกองหลังให้รับมือเกมรุกของ ราชบุรี เสียอยู่หมัด เกือบจะทำประตูได้สองสามครั้งจากการขึ้นมาลุ้นลูกโด่งจากจังหวะเซ็ตเพลย์
กองกลาง : วันเฉลิม ยิ่งยง (พีที ประจวบ)
มิดฟิลด์คู่บุญของ "โค้ชวัง" ที่ตามติดกันมาตั้งแต่สมัยอยู่ทีมเพื่อนตำรวจ เกมนี้ "เจ้ากิ๊บ" ช่วยขับเคลื่อนเกมแดนกลางได้อย่างโดดเด่นทั้งรุกและรับ ฉายแววเจิดจรัสยิ่งกว่าคู่แข่งมากดีกรีอย่าง สารัช, ชัปปุยส์ หรือ ทศวรรษ แถมเรียกจุดโทษได้ด้วยจากการลากตะลุยเข้าไปในกรอบเขตโทษจนถูก ทศวรรษ ฉุดล้ม ครั้งหนึ่ง "โค้ชวัง" เคยกล่าวไว้ด้วยว่า วันเฉลิม มีดีพอที่จะติดธงทีมชาติไทย
กองกลาง : อ่อง ตู (โปลิศ เทโร)
อาจจะไม่ใช่กองกลางซะทีเดียว แต่ก็รับบทเพลย์เมกเกอร์ให้ทีม "มังกรโล่เงิน" อยู่หลัง มิชาเอล เอ็นดรี้ และ มาร์กอส วินิซิอุส ได้อย่างเนียนตา เมื่อไหร่ี่ที่บอลมาถึงเท้า ดาวเตะเมียนมารายนี้มักจะสร้างสิ่งที่น่าเหลือเชื่อได้เสมอ นัดนี้ทำประตูย้ำชัยชนะในช่วงท้ายเกม และเข้าไปมีส่วนร่วมกับประตูที่ เทโร ทำได้ตลอด นี่คือนักเตะอาเซียนที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับ 5 เกมแรกทั้งเรื่องฝีเท้าและการตลาด
กองกลาง : จิตปัญญา ทิสุด (พีที ประจวบ)
ทำไปหนึ่งประตูจากจังหวะวิ่งกดดัน เซลิโอ ซานโต๊ส จนกองหลังแซมบ้าสมาธิหลุดจ่ายบอลคืนหลังพลาดเข้าทาง "เจ้าหน่อง" ที่ได้จิ้มบอลง่ายๆ นอกจากนั้นยังเป็นคนเปิดลูกเตะมุมทำให้ทีมได้อีกถึง 3 ประตู พิสูจน์ให้เห็นว่าฉายา "เจ้าพ่อลูกนิ่ง" ของ จิตปัญญา ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย "โค้ชวัง" ยังเคยเอ่ยปากชมว่าการดึงเขามาจาก บางกอกกล๊าส คือดีลที่ยอดเยี่ยมที่สุดของทีม "ต่อพิฆาต" ในปีนี้
กองกลาง : อมร ธรรมนาม (พีที ประจวบ)
อีกหนึ่งแข้งของ "ต่อพิฆาต" ที่ไม่กล่าวถึงคงไม่ได้ เพราะทำไปคนเดียว 2 ประตูใส่อดีตต้นสังกัดเก่า ซึ่ง "เจ้ามร" ก็ไม่ได้แสดงอาการดีใจตามมารยาท นี่คือนักเตะที่อาจจะถูกประเมินฝีเท้าต่ำกว่าความเป็นจริง แม้อายุอานามจะปาเข้าไป 34 ย่าง 35 แล้ว แต่ปีนี้อาจจะเป็นปีที่ดีที่สุดในอาชีพค้าแข้งก็เป็นได้ เพราะแค่ออกสตาร์ทมา 5 นัด ก็ซัดไปแล้วถึง 4 ประตู
กองหน้า : มิชาเอล เอ็นดรี้ (โปลิศ เทโร)
คว้าตำแหน่งแมนออฟเดอะแมตช์ในเกมที่ โปลิศ เทโร บุกเอาชนะ ชัยนาท ฮอร์นบิล สุดมันส์ 4-2 ซึ่งเป็นชัยชนะนัดแรกของ "มังกรโล่เงิน" ในซีซั่นนี้อีกด้วย ปีนี้สิ่งที่ เอ็นดรี้ แสดงให้เห็นว่าพัฒนาขึ้นกว่าปีก่อนๆ คือการเล่นเป็นทีมเวิร์ค ประสานงานกับ มาร์กอส วินิซิอุส, ดันเก้ และ อ่อง ตู ได้อย่างเข้าขา แถมช่วงท้ายเกมยังลงมาช่วยเกมรับสกัดลูกสำคัญ รวมถึงครอบครองบอลเผาเวลาตามแท็กติกได้อย่างสุดเขี้ยว
กองหน้า : ลอนซาน่า ดูมบูย่า (พีที ประจวบ)
ศูนย์หน้าร่างยักษ์ทีมชาติกินี เล่นงานแนวรับของ "กิเลนผยอง" จนปั่นป่วนไปหมด โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังที่ไม่มีใครหยุดหัวหอกเจ้าของความสูง 193 ซม. ทั้งลูกกลางอากาศและภาคพื้นดินได้เลย นัดนี้ทำไป 2 ประตูจากลูกโหม่งและจุดโทษ แถมท้ายเกมน่าจะได้แอสซิสต์ด้วยซ้ำถ้าเพื่อนร่วมทีมเฉียบคมกว่านี้สักหน่อย
กองหน้า : เนบีฮี บายรัม (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)
อาจจะถูกหลายคนวิจารณ์ว่าเป็นพวกบอลชายเดี่ยว เอาแต่เลี้ยงยันโกลไม่ค่อยจ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีม แต่ถ้าเขามั่นใจแล้วทำได้ 2 ประตูแบบนี้ก็คงต้องยอม บางครั้งในเกมที่ยากลำบาก การมีนักเตะสไตล์แบบนี้อยู่ในทีมบ้างก็อาจเป็นเรื่องที่ดี เพราะด้วยความสามารถเฉพาะตัวของ บายรัม ทำให้ "กว่างโซ้ง" เก็บ 3 แต้มสำคัญเหนือ ราชบุรี ได้สำเร็จ
โค้ช : ธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล (พีที ประจวบ)
อาจจะเป็นเกมที่ "โค้ชวัง" ลำบากใจที่สุดเพราะชัยชนะพลิกล็อกมโหฬารเหนือ "กิเลนผยอง" 6-1 นั้นทำให้รุ่นพี่ที่อยู่ในยุค "ดรีมทีม" ด้วยกันอย่าง "โค้ชแบน" ต้องไขก๊อกลาออกจากตำแหน่ง เกมนี้ถึงจะไม่ได้เห็นการแก้เกมของ "โค้ชวัง" มากมายเพราะลูกทีมที่ลงสนามนั้นโชว์ฟอร์มเด็ดดวงเหลือเกิน แต่ชัยชนะนัดนี้ก็ต้องยกเครดิตให้กุนซือวัย 43 ปี เพราะหลายๆ ประตูที่ทำได้แสดงให้เห็นว่าเบื้่องหลังชัยชนะนั้นมาจากการฝึกซ้อมลูกนิ่งและการวางแผนแท็กติกที่เวิร์คสุดๆ