"ฉัตรชัย"ยกประตูช้างศึกหนึบทุกราย
"บอย" ฉัตรชัย บุตรพรม ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย เผยโอกาสลงเฝ้าเสาให้กับทีมชาติไทยของตนเองอยู่ที่ มิโลวาน ราเยวัช เพราะผู้รักษาประตูของทีมตอนนี้ล้วนฝีมือระดับท็อป ตั้งเป้าคว้าแชมป์คิงส์คัพให้ได้ เพื่อล้างอายความผิดหวังชวดแชมป์ในอดีต
"บอย" ฉัตรชัย บุตรพรม จอมหนึบทีม สิงห์ เชียงราย เอฟซี มีชื่อติดทีมชาติไทยอีกครั้งในรอบ 2 ปี หลังมีชื่อติด 1 ใน 23 นักเตะทีมชาติไทย ชุดทำศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 46 วันที่ 22 และ 25 มีนาคม 2561
โดยผู้รักษาประตูทีมชาติไทย วัย 31 ปี กล่าวว่า "รู้สึกภูมิใจมากครับ ที่มีชื่อติดทีมชาติไทย อีกครั้ง ผมเคยติดทีมชาติไทย เล่นในฟุตบอลคิงส์คัพครั้งหนึ่ง แต่ตอนนั้นไม่ได้แชมป์มันน่าเสียดาย แต่ตอนนี้ผมมีชื่อกลับมาเล่นในทีมชาติไทย และมีโอกาสลงเล่นในคิงส์คัพ อีกครั้ง ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจครับ"
"เป้าหมายในการแข่งขันแน่นอนว่าต้องการคว้าแชมป์ให้ได้ครับ เพราะตอนที่เราเล่นนั้นไม่ได้แชมป์ ซึ่งด้วยขุมกำลังและนักเตะที่ติดทีมชุดนี้เป็นนักเตะระดับคุณภาพ ทำให้ผมเชื่อว่าเรามีโอกาสประสบความสำเร็จ ป้องกันแชมป์ได้อีกครั้งครับ"
"ส่วนปัจจัยที่ทำให้ผมกลับมาอยู่ในจุดนี้อีกครั้งผมคิดว่าอยู่ที่ครอบครัว อีกอย่างผมว่าอยู่ที่สมาธินะครับ ผมเคยบาดเจ็บ ซึ่งการบาดเจ็บครั้งนั้นถือว่าหนักมาก และต้องพักกว่า 6 เดือน มันรู้สึกทรมานมาก ทำให้การกลับมาเล่นอีกครั้งมันทำให้ผมรู้ว่าเราต้องมีสมาธิ ตั้งใจมากขึ้นครับ"
"ส่วนคู่แข่งขันครั้งนี้ผมว่าน่ากลัวทุกทีม ยูเออี เป็นทีมจากตะวันออกกลาง มีความสามารถเฉพาะตัวดี ส่วน สโลวาเกีย ก็เป็นทีมจากยุโรป กาบอง เองก็มีนักเตะเก่งๆ"
"จริงๆ แล้วผมไม่ได้โฟกัสเรื่องการเป็นมือหนึ่งของทีม เพราะว่าตอนนี้ผมว่าทุกคนทำผลงานได้ดีหมดเลย อยู่ที่โค้ช ราเยวัช ครับว่าจะเลือกใครลงสนามมากกว่า"
สำหรับการแข่งขันรอบแรกจะมีขึ้นวันที่ 22 มีนาคม 2561 คู่แรก ทีมชาติสโลวาเกีย พบกับ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เวลา 16.30 น. คู่ที่สอง ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติกาบอง เวลา 19.30 น. ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ทั้ง 2 คู่ ส่วนรอบชิงชนะเลิศจะมีขึ้นในวันที่ 25 มีนาคม 2561 เวลา 19.30 น. ขณะที่คู่ชิงอันดับ 3 จะแข่งขันในเวลา 16.30 น. โดยเกมทุกนัดจะถ่ายทอดสดทางช่องไทยรัฐทีวี, Youtube Thairath และ Facebook ThairathTV
ส่วนแฟนบอลชาวไทยสามารถซื้อตั๋วชมการแข่งขันได้ที่ ไทย ทิคเก็ต เมเจอร์ ทุกสาขา มีให้เลือก 2 แบบ คือ แมตซ์เดย์ บัตร 1 วัน ชมได้ 2 คู่ ราคา 100, 200, 300, 400 และ 500 บาท ส่วนบัตร แพ็คเกจ สามารถเข้าชมการแข่งขันได้ 2 วัน 4 คู่การแข่งขัน ราคา 170, 340, 510, 680 และ 850 บาท และติดการแถลงข่าวการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ในวันที่ 8 มีนาคมนี้