มิดฟิลด์โปลิศ เทโร กล่าวถึงการมีชื่อติดทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรกว่า
"ตื่นเต้นครับ ตอนที่เขาแจ้งมาว่ามีชื่อติดอยู่ในลิสต์รอบแรกก็เซอร์ไพรส์แล้ว แต่พอรู้ว่าติด 25 คนด้วยยิ่งดีใจมากครับ"
"ทางบ้านคุณพ่อคุณแม่ก็ตื่นเต้นดีใจเหมือนกัน เพื่อนๆ ก็มาแสดงความยินดีกันเยอะเลย"
"ส่วนตัวผมมองว่าเรามาได้ไกลกว่าที่คิดไว้มาก เพราะเมื่อ 2 ปีที่แล้วผมยังเล่นอยู่ในระดับไทยลีก3 อยู่เลยกับ นอร์ทกรุงเทพ ทางพี่แบงค์ (ดำรงศักดิ์ บุญม่วง โค้ชของนอร์ทกรุงเทพ) ก็แสดงความยินดีกับผมด้วยครับ"
"ผมพยายามพัฒนาตัวเองในฤดูกาลที่ผ่านมา ด้วยการลบจุดอ่อนที่มี โดยได้คำแนะนำจากพี่อ้น,พี่เปิ้ล และพี่ทรรศ (รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค, อภิเชษฐ์ พุฒตาล, พีรทรรศ โพธิ์เรือนดี) ตอนขึ้นมาเล่นไทยลีกใหม่ๆ ผมจะเป็นคนขี้เกรงใจมากครับ เวลาพี่ๆ ขอบอลผมก็จะรีบส่งให้ทันที แต่โค้ชก็แนะนำว่าเราต้องสร้างโอกาสด้วยตัวเองบ้าง เราเป็นกองกลางจะแค่จ่ายบอลง่ายๆ ไม่ให้เสียไม่ได้"
"ผมก็พยายามซ้อมลูกยิงไกล, ลูกครอส และจ่ายบอลยาวเปลี่ยนแกนให้มากขึ้น พยายามเลือกยิงเองเมื่อมีจังหวะแทนที่จะจ่ายบอลให้คนอื่นอย่างเดียว ตอนนี้ก็ยังมองว่าตัวเองต้องพัฒนาอีกเยอะครับ"
"การเข้าไปร่วมแคมป์ทีมชาติ ก่อนอื่นเลยผมตื่นเต้นมากครับ เพราะผมไม่เคยติดทีมชาติชุดไหนมาก่อน ไม่เคยถูกเรียกคัดตัวด้วยซ้ำไปครับ แต่ครั้งนี้ผมจะพยายามเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด โชคดีที่ในทีมมีบุ๊ค (เอกนิษฐ์ ปัญญา) ที่ผมสนิทกันกับน้องตั้งแต่ตอนอยู่เชียงรายด้วยกันแล้ว ก็น่าจะช่วยให้คำแนะนำในการปรับตัวเข้าหาพี่ๆ ในทีมได้พอสมควร ในทีมผมแทบไม่เคยรู้จักใครเป็นการส่วนตัว ก็จะมีพี่ไอซ์ (กัมพล ปฐมอรรฆกุลย์) อีกคนที่ผมคุยกับแกอยู่บ่อยๆ น่าจะช่วยให้ผมปรับตัวง่ายขึ้นครับ"
"ผมตั้งใจว่าจะเรียนรู้จากพี่ๆ ซีเนียร์ในทีมให้มากที่สุด รู้สึกเป็นเกียรติมากครับที่จะได้ร่วมเล่นร่วมซ้อมกับพี่ๆ ระดับเบอร์ต้นๆ ของประเทศอย่างพี่เจ, พี่อุ้ม และคนอื่นๆ ผมจะพยายามทำให้เต็มที่ไม่เกร็งจนเกินไป ให้โค้ชได้เห็นว่าผมทำอะไรได้บ้าง"
"พี่อ้นก็แนะนำผมว่า การติดทีมชาติมันเป็นบันไดขั้นหนึ่ง แต่เราจะพอใจแค่นี้ไม่ได้ ต้องก้าวขึ้นไปอีก ติดแล้วก็ต้องรักษามาตรฐานเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจในครั้งต่อๆ ไป"
"หากมีโอกาสได้ลงสนามก็จะทำเต็มที่แน่นอนครับ แต่ก่อนอื่นในตอนซ้อม ผมตั้งใจว่าจะเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด ขอบคุณทุกคนที่คอยสนับสนุนเป็นกำลังใจให้มากๆ ครับ"
