TOYOTA Thai League Team Of The Week ประจำสัปดาห์ที่ 6
11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2018 ประจำสัปดาห์ที่ 6
แผนการเล่น : 3-4-3
ผู้รักษาประตู : ธณชัย หนูราช (ชลบุรี เอฟซี)
ถูกส่งลงมาแทน ชนินทร์ แซ่เอียะ บางคนอาจเป็นห่วงว่าจะรอดมั้ยในการไปเยือน โปลิศ เทโร ที่เกมรุกกำลังฟอร์มขึ้นหิ้ง แต่ "เจ้าเบียร์" กลับโชว์ฟอร์มเซฟแล้วเซฟอีก เหนียวหนึบเสียจนยิงเท่าไหร่ก็ไม่เข้า พร้อมกับเก็บคลีนชีตได้สำเร็จ และทำให้ทีมคว้า 3 แต้มสำคัญขยับพ้นโซนอันตายและลดความกดดันภายในทีมไปได้อีกโข
กองหลัง : ทริสตอง โด (เอสซีจี เมืองทองฯ)
หลังจากที่ทีม "กิเลนผยอง" มีการเปลี่ยนแปลงหัวโขน เราได้เห็นแววตาที่มุ่งมั่นและความทุ่มเทที่เป็นจุดเด่นของวิงแบ็กลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศสกลับมาอีกครั้ง ก่อนหน้านี้มีใครบางคนวิจารณ์ว่า โด ฟอร์มตกไปมากจนหลุดจากทีมชาติไทยเพราะจุดเด่นที่กล่าวไปนั้นมันลดทอนลง เกมนี้ โด ช่วยเกมรับได้ดีและมีจังหวะโอเวอร์แล็ปขึ้นมาช่วยเกมรุกสวยๆ หลายครั้ง นอกจากนี้ประตูจากฟรีคิกสุดสวยของ โด ก็ถือเป็นไฮไลท์สำคัญในเกมที่ เมืองทอง กลับมาคว้าชัยได้สำเร็จ
กองหลัง : นัสตพล มาลาพันธ์ (ชลบุรี เอฟซี)
เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์สำคัญของทีมตลอด โดยเฉพาะเกมป้องกันที่ต้องรับมือกับ 4 ประสานแนวรุกต่างชาติของ โปลิศ เทโร "เจ้าเอี้ยง" ช่วยทั้งลูกภาคพื้นดินและกลางอากาศ มีบทบาทสั่งการแนวรับเสมือนเป็นแม่ทัพใหญ่ และคอยห้ามปรามทั้งเพื่อนร่วมทีมและคู่แข่งในจังหวะที่เกือบบานปลาย นี่ถ้าไม่ติดว่ายืมตัวมา ฉายแววซะขนาดนี้อนาคตปลอกแขนกัปตันทีมคงไม่หนีไปไหนแน่นอน
กองหลัง : ศาสนพงษ์ วัฒยุชูติกูล (ราชบุรี มิตรผล)
ก่อนหน้านี้หลายคนเป็นกังวลว่าการขาย เควิน ดีรมรัมย์ ไปให้การท่าเรือ จะเกิดบ่อน้ำมันขึ้นที่ฝั่งแบ็กซ้าย ที่เหลือเพียง "เจ้าก๊อต" ศาสนพงษ์ อดีตเด็กปั้นของเจเอ็มจี อคาเดมี่ ซึ่งเกมนี้ "เจ้าก๊อต" ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีดีเหมือนกัน เกมรุกทางซ้ายประสานงานกับ รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก ได้มันมากๆ จังหวะประตูขึ้นนำ 2-0 ก็มาจากการเติมถึงสุดเส้นก่อนปาดเข้ามาหน้าประตู ช่วยให้ บิล หัวหอกแซมบ้ายิงลูกแรกในไทยลีกได้เสียที
กองกลาง : ชุติพนธ์ ทองแท้ (ราชบุรี มิตรผล)
ก่อนหน้านี้โค้ชต่างชาติอย่าง คริสเตียน ซีเก้ ดูจะไม่ค่อยไว้วางใจในตัว "เจ้าบอล" เท่าไหร่ เรเน่ เดอซาเยียร์ เข้ามาแทนระยะสั้นๆ ก็ยังเค้นฟอร์มเก่งไม่เจอ จนกระทั่ง "โค้ชเจี๊ยบ" สมชาย ไม้วิลัย ขึ้นมานั่งแท่นนายใหญ่ ความคุ้นเคยกับทีมมานานรู้ดีว่า ชุติพนธ์ มีดียังไงบ้างก็ทำให้เจ้าตัวคืนฟอร์มด้วยการยิงประตูเบิกร่องตั้งแต่ไก่โห่ ซึ่งมีผลสำคัญให้รูปเกมของ ราชบุรี ไหลลื่นและกลับมาคว้า 3 แต้มในบ้านสำเร็จ
กองกลาง : เซร์คิโอ ซัวเรซ (การท่าเรือ เอฟซี)
กองกลางชาวสแปนิชยังคงจมูกไวในกรอบเขตโทษเหมือนเดิม ทั้งลูกตามตีเสมอ 1-1 ที่ยิงมุมแคบเข้าไป รวมถึงลูกที่สองที่ชุลมุนอยู่ในกรอบ 6 หลา เซร์คิโอ ช่วยกันกับ นูรูล ซัดคอมโบจนแนวรับ สุโขทัย น่วม และไปจบสกอร์ได้ที่ ดราแกน บอสโควิช ฟอร์มของอดีตดาวเตะลาส พัลมาส สม่ำเสมอจนทำให้เขายิงไปแล้ว 5 ประตูจาก 6 นัดในไทยลีก
กองกลาง : มาริโอ ยูรอฟสกี้ (บางกอกกล๊าส)
เป็นอีกเกมที่ผลงานส่วนตัวยอดเยี่ยมสำหรับเพลย์เมกเกอร์ชาวมาซิโดเนียน น่าเสียดายที่เกมรับ "บีจี" เสียประตูง่ายไปหน่อย แต่ในยามที่ทีมลำบากตามหลังห่างถึง 1-4 "ซูเปอร์มาริโอ" ก็แสดงให้เห็นว่าเขามีเลือดนักสู้เต็มเปี่ยม ในการซัดคนเดียว 2 ประตูเพื่อพาทีมกลับมาสู่เกมอีกครั้ง น่าเสียดายอีกเช่นกันที่เวลามันไม่เพียงพอที่จะทำอะไรได้มากไปกว่านี้
กองกลาง : อมร ธรรมนาม (พีที ประจวบ)
ติดทีมยอดเยี่ยมเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกันด้วยผลงานยิง 1 แอสซิสต์ 1 ในเกมช่วย "ต่อพิฆาต" บุกเฉือน "กระต่ายแก้ว" 4-3 ลีลากระชากลากเลื้อยและสปีดต้นถ้าไม่บอกคงไม่มีใครรู้ว่า "เจ้ามร" อายุย่าง 35 ปีแล้ว ตอนที่ "โค้ชวัง" กล่าวว่าปีกจรวดรายนี้สมควรได้รับโอกาสติดทีมชาติไทยสักครั้ง หลายคนบอกอวยเว่อร์ แต่ผลงาน 5 ประตูจาก 6 นัดพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าคำสรรเสริญเยินยอนั้นไม่ได้เกินจริงเลย
กองหน้า : โชนาธาน เฮส (พีที ประจวบ)
ทักษะความสามารถเฉพาะตัวดีตามแบบฉบับของแข้งแซมบ้า เกมนี้จังหวะโต้กลับของ ประจวบ ได้ เฮส โชว์สเต็ปสวยๆ หลายครั้งจนเหมาแฮททริกแรกในลีกสูงสุดได้สำเร็จ ดีกรีดาวซัลโว T2 ของอดีตศูนย์หน้า เกษตรศาสตร์ เอฟซี แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้เก่งแค่ลีกพระรอง ยิ่งเล่นยิ่งดูหล่อขึ้นทุกเกมจน "โค้ชวัง" ต้องออกมาเตือนทีมอื่นแล้วว่าทำสัญญายืมตัวไว้ 2 ปีอย่าได้มาคิดฉกเป็นอันขาด
กองหน้า : ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
เหมาคนเดียว 2 ประตูให้ บุรีรัมย์ คว้า 3 แต้มตามเป้าได้สำเร็จ ลูกแรกเก็บส้มหล่นจากความผิดพลาดของแนวรับราชนาวี ส่วนลูกที่สองต้องยอมรับในวิญญาณเพชฌฆาตของดาวยิงแซมบ้าจริงๆ ในยามที่ "ปราสาทสายฟ้า" ไม่ได้มีคนแบ่งเบาภาระในการยิงประตูเหมือนซีซั่นก่อนๆ ดูทรงแล้วปีนี้ถ้าไม่เจ็บไม่ไข้ไปซะก่อน ตำแหน่งดาวซัลโวไทยลีกอาจจะกลับมาอยู่ในมือของ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ก็เป็นได้
ใครหลายคนพูดถึงเกมรุก สุโขทัย ในฤดูกาลนี้มักจะนึกถึง เนลสัน โบนีญ่า และ มาร์ติน เอ็นจิว่า แต่กองหน้าชาวมาดากัสการ์เจ้าของความสูง 158 ซม. ผู้นี้อยู่เบื้องหลังการทำประตูของเพื่อนร่วมทีมมาตลอด จนกระทั่งเกมนี้ที่สลับบทบาท กลายเป็น จอห์น บาจโจ้ ที่ถูกฉายสปอตไลท์บ้าง ด้วยการเหมาทำ 2 ประตูทั้งยิงให้ทีมขึ้นนำและตามตีเสมอ แชร์แต้มสำคัญในการเจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งอย่างการท่าเรือมาได้
โค้ช : มาโน่ โพลกิ้ง (แบงค็อก ยูไนเต็ด)
พาทีมคว้าชัยในเกมความมันส์ระดับ 5 กะโหลก จากที่ตามหลังก่อน 0-2 แก้เกมจนตามกลับมาตีเสมอได้ และพอผู้เล่นเหลือแค่ 10 คนก็หาได้สั่งลูกทีมไปตั้งรับไม่ ยังคงใช้ปรัชญาเกมรุกที่ตัวเองชำนาญจนยิงเพิ่มได้อีก 2 ประตูและคว้า 3 แต้มสำคัญเหนือ พัทยา ยูไนเต็ด ได้สำเร็จ นี่คือเกมที่ มาโน่ โพลกิ้ง ยอมรับว่าเป็นเกมที่ดีที่สุดในชีวิตการเป็นกุนซือเลยทีเดียว