ฉัตรชัย บุตรพรม ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ย้ายกลับไปค้าแข้งกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ หลังหมดสัญญายืมตัวจาก พีที ประจวบ เอฟซี ซึ่งนายด่านวัย 36 ปี ได้โอกาสลงเฝ้าเสาให้กับ “ต่อพิฆาต” ในช่วงเลกสองไป 10 นัด พร้อมช่วยทีมจบอันดับ 11 ใน รีโว่ ไทยลีก ฤดูกาล 2022/23
โดย “บอย” เพิ่งมีชื่อกลับไปติดทัพช้างศึกอีกครั้งในรอบกว่า 1 ปี ในการแข่งขัน ฟีฟ่า เดย์ เดือนมิถุนายน พบกับไชนีส ไทเป และฮ่องกง หลังที่ผ่านมาต้องต่อสู้อย่างหนักจากอาการบาดเจ็บ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าภูมิใจและมีความสุขมาก
"การกลับมาติดทีมชาติไทยครั้งนี้ มันทำให้ผมรู้สึกภูมิใจ และดีใจ เพราะที่ผ่านมา ผมต้องต่อสู้กับช่วงเวลาที่นานมาก ต่อสู้กับความรู้สึกที่มันเหนื่อย เพราะการผ่าตัดครั้งนี้กินเวลานานมากกว่าครั้งแรกที่ตัวผมเคยผ่าตัดมา และต้องมาต่อสู้ในทีม พอหายกลับมาได้เล่นก็เหมือนกับการปลดปล่อย และมันก็ได้เห็นผล ที่ผ่านมามันเหนื่อยมากกับการกายภาพ มันผ่านอะไรมาเยอะจริง"
"การมาทีมชาติไทยครั้งนี้ ผมพยายามไม่กดดันตัวเอง ผมพยายามสนุกกับมันให้มากที่สุด เพราะเป้าหมายใหญ่สุดของผมคืออยากติดทีมชาติไทยในรายการเอเชียน คัพ รอบสุดท้าย แต่แน่นอนว่าการมารายการนี้ ก็ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญ ก็หวังที่จะปรับตัวกับรุ่นพี่รุ่นน้องให้ได้ดีที่สุด เพื่อเป้าหมายของตัวเราเอง"
นอกจากนี้ ฉัตรชัยยังได้เผยถึงการถูกเรียกติดทีมชาติ ในวัย 36 ปี ว่าจะถูกมองว่ามีอายุมากไปหรือไม่
"สำหรับเรื่องอายุ ในมุมมองของผม ผมไม่ได้มองเรื่องอายุ ถ้าอายุน้อย ผลงานไม่ดี มันก็ไม่สำคัญ และถ้าอายุเยอะ ผลงานดีก็ตอบทุกอย่าง อายุไม่ใช่คำตอบ ผมไมได้ซีเรียสเรื่องอายุ อายุผมมากขึ้นทุกวัน แต่ไอดอลของผม พี่ตี๋ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล อายุ 41, จานลุยจิ บุฟฟ่อน อายุ 45 ปี แต่เขาก็ยังเล่นในระดับท็อปได้ เขาแสดงให้เห็นว่าอายุไม่มีผล แต่ผลงานมันคือคำตอบทั้งหมด"
"ผมต้องขอบคุณแฟนบอลไทย และเพื่อนๆ น้องๆ ผมดีใจมากที่ติดทีมชาติไทย แต่ผมดีใจมากกว่าที่มีคนรอผม ทำให้ผมรู้สึกว่า สิ่งที่ผมเหนื่อยมา มีคนอยู่ข้างเรา การกลับมาติดทีมชาติไทย ก็ซึ้งใจว่ามีคนเขารอเรา อยากเห็นเรากลับมารับใช้ทีมชาติไทยอีกครั้ง มันมีความสุขเสมอยามที่มีคนคอยให้กำลังใจ ทั้งแฟนบอล เพื่อนๆ และคนใกล้ตัวทุกคน"