รู้จัก "ฟลุ๊ค" ชนสรณ์ โชคลาภ แบ็คขวาทีมชาติไทย U17 ชุดลุยศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ กับภารกิจล่าตั๋วฟุตบอลเยาวชนโลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี
ช้างศึก U17 ภายใต้การนำของ “โค้ชกบ” พิภพ อ่อนโม้ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ได้ทำการเลือก 23 นักเตะ เพื่อทำศึกสำคัญ ซึ่งแต่ละคนมีดีกรี และเส้นทางลูกหนังที่น่าสนใจ แตกต่างกัน
มาต่อกันที่ แบ็คขวาหนึ่งเดียวจาก อัสสัมชัญ ธนบุรี มหาอำนาจลูกหนังขาสั้น ที่มีชื่อติดทีมมาในครั้งนี้ อย่าง ชนสรณ์ โชคลาภ ที่ในวัย 16 ปี ที่กวาดแชมป์ในรายการบอลเด็กมาแล้วมากมาย และยังได้ไปฝึกทักษะลูกหนังที่ต่างประเทศในทุกปี
"ฟลุ๊ค" ได้รับการสนับสนุนที่ดีจากคุณแม่ ตั้งแต่เริ่มหวดลูกหนังด้วยวัย 5 ขวบ จากการเล่นฟุตซอลบนพื้นปูน แถวบ้านที่มีนบุรี ก่อนจะเปลี่ยนสังเวียนมาเป็นสนามหญ้าแบบเต็มตัวในช่วงอายุ 7 ขวบ”
ขณะที่กำลังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา ที่ โรงเรียนบางกะปิ ตอนอายุ 10 ขวบ คุณแม่ ได้พาไปทดสอบฝีเท้าที่ โรงเรียน อัสสัมชัญ ธนบุรี ต้องสู้กับเด็กกว่าพันคน แต่ "ฟลุ๊ค" ก็ไม่ทำให้คุณแม่ผิดหวัง
"ฟลุ๊ค" ถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในนักเตะของ เจ้าสัวน้อย ด้วยความที่มีหัวใจนักสู้เกินร้อย ก่อนที่เขาจะค้นพบตำแหน่งที่ถนัดจากเดิมที่เล่นในตำแหน่ง เซ็นเตอร์แบ็ค มาตลอดก็กลายเป็นแบ็คขวาที่ทีมขาดไม่ได้
โค้ชต้อม พลวัต ทองขาว หนึ่งในโค้ชที่สอนเจ้าฟลุ๊ค ที่อัสสัมชัญ ธนบุรี กล่าวถึงลูกศิษย์คนนี้ว่า "สำหรับ ฟลุ๊คตอนแรกที่มาคัดเลือก เขาเกือบไม่ผ่านการคัดเลือกนะ เพราะต้องยอมรับว่า ณ เวลานั้น เบสิค ทักษะของเขาก็ยังไม่ดีเท่าไหร่ แต่ทางโรงเรียน เห็นถึงความใจสู้ของเขา ในการมาคัดเลือก เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจของน้อง เราก็เลยลองให้โอกาส"
"หลังจากได้โอกาส ต้องยอมรับว่าเราคิดไม่ผิด เมื่อเขาได้มาซ้อมต่อเนื่อง เขาเป็นเด็กที่ตอบสนองกับแนวทางของโค้ชได้ดี และพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว จนเขาก้าวขึ้นมาเล่นข้ามรุ่น และมันทำให้เขามีพัฒนาการที่ดีอย่างต่อเนื่อง"
ในช่วงเวลาที่สวมสีเสื้อแดง-ขาว "ฟลุ๊ค" เริ่มฉายแวว ด้วยการพาทีมกวาดความสำเร็จมามากมาย ทั้งการคว้าแชมป์ ช้าง จูเนียร์ คัพ 2 สมัยซ้อน และเขายังได้ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่อังกฤษ อีกด้วย
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ "ฟลุ๊ค" จะกลายเป็นแบ็คขวาตัวหลักของ ทีมชาติไทย U17 ทั้งในศึกชิงแชมป์อาเซียน รวมถึง ศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่ผ่านมา
โค้ชต้อม ได้กล่าวถึงการติดทีมชาติไทย U17 อย่างต่อเนื่องของ ฟลุ๊ค ว่า "การติดทีมชาติไทยชุดเยาวชน ของเขา ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจ แต่ผมต้องการให้เขามองไปไกลกว่าการแค่ติดทีมชาติไทยชุดเยาวชน ให้มองว่าตอนนี้เขายังไม่ได้สำเร็จนะ พยายามรักษาความมุ่งมั่น ทัศนคติที่ดีต่อไป ก้าวไปติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ได้ไปเล่นในระดับไทยลีก แบบนี้เป็นต้น มันจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องรักษาสิ่งเหล่านี้ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเตะเยาวชนของ อัสสัมชัญ ธนบุรี รุ่นต่อๆไป"
นอกจากนี้ล่าสุดก่อนลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย เขายังเป็นหนึ่งในนักเตะที่ชนะเลิศในโครงการบุนเดสลีกา ดรีม ของ PPTV และได้ไปฝึกซ้อมเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่เยอรมัน ก่อนที่จะมาสมทบกับทีมชาติไทย
ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ครั้งนี้ เขาคือหนึ่งในตัวเลือกสำคัญ ของ “โค้ชกบ” พิภพ อ่อนโม้ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ในตำแหน่งแบ็คขวา กับการพาทัพช้างศึกไล่ล่าความสำเร็จ โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือตั๋วฟุตบอลเยาวชนโลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี
