สัจจา ศิริเขตร์ กุนซือผู้ปลุกปั้น พรรษา เหมวิบูลย์ มาตั้งแต่สมัยอยู่ภายใต้รั้ว จามจุรี ชี้เบื้องหลังฝีเท้าที่ดีขึ้นแบบพุ่งพรวด เกิดจากประสบการณ์ที่ได้รับในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก และการมีอาจารย์ดีอย่าง อันเดรส ตูเนซ คอยให้คำแนะนำยามเล่นด้วยกันในทีม "ปราสาทสายฟ้า" เชื่อศิษย์ฺรักไปเล่นลีกต่างแดนได้ขอแค่เติมรายละเอียดอีกเล็กน้อย
"โค้ชอู๊ด" สัจจา ศิริเขตร์ กุนซือทีมจามจุรี ยูไนเต็ด ในศึก T3 และทีมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชุดฟุตบอลประเพณี กล่าวถึงศิษย์เก่ารั้ว "จามจุรี" อย่าง "โย่ง" พรรษา เหมวิบูลย์ ที่กำลังโชว์ฟอร์มขึ้นหิ้งให้กับทีมชาติไทยในศึกชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 46 โดยระบุว่าผลงานที่ดีวันดีคืน เกิดจากประสบการณ์ที่ต้องเจอกับกองหน้าระดับชั้นนำในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่สำคัญคือการได้ลงเล่นร่วมกับ อันเดรส ตูเนซ ปราการหลังทีมชาติเวเนซูเอล่า ในทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
นอกจากนี้หลังมีกระแสผลักดันจากแฟนบอลว่า พรรษา น่าจะดีพอในการย้ายไปเล่นในเจลีก ของญี่ปุ่น หรือแม้กระทั่งในลีกเบลเยียม กับ โอเอช ลูเวิน ซึ่ง "โค้ชอู๊ด" มองว่า พรรษา ยังต้องเติมเต็มจุดอ่อนในเรื่องการป้องกันลูกครอสจากด้านข้าง และเพิ่มสมรรถภาพร่างกายให้แข็งแกร่งยิ่งกว่านี้ เพื่อให้สมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเดิม
"นี่ก็เป็นปีที่ 2 แล้วที่ โย่ง เล่นให้ทีมชาติไทยตั้งแต่ ราเยวัช เข้ามา พี่ว่าหลักๆ ที่ทำให้เขาพัฒนาขึ้นอย่างมาก คงเป็นการได้เล่นในเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก เพราะได้เจอกับกองหน้าระดับชั้นนำของทีมญี่ปุ่น, จีน, เกาหลีใต้ ในทีมของเขาเองก็มี อันเดรส ตูเนซ คอยให้คำแนะนำเวลาที่เล่นด้วยกัน โย่งเขาเป็นคนที่รับฟังคนอื่นอยู่แล้ว และบุรีรัมย์เองก็ช่วยพัฒนาเขาขึ้นมากในเรื่องสภาพร่างกายจากที่แต่ก่อนเป็นคนผอมมากๆ
" การไปเล่นที่ต่างแดน แน่นอนว่าพอมีใครที่โดดเด่นก็จะเกิดกระแสอยากให้ออกไปเล่นในลีกที่สูงกว่า แต่พี่ว่า โย่ง อาจจะใช้เวลาอีกสักปีสองปีเพื่อเพิ่มเติมรายละเอียดอีกเล็กน้อย ตอนนี้เขายังป้องกันลูกครอสได้ไม่ดีนัก ถ้าทำตรงนี้ได้เขาก็จะสมบูรณ์แบบมากขึ้นไปอีก แล้วก็เรื่องของรูปร่างอาจจะต้องให้แข็งแรงยิ่งกว่านี้ เพราะตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟในลีกต่างประเทศต้องแข็งแกร่งมากๆ ครับ แต่พี่ก็เชื่อว่าบุรีรัมย์เขาเน้นเรื่องฟิตเนสอยู่แล้ว ไม่ค่อยน่าเป็นห่วงโย่งเท่าไหร่ครับ" โค้ชอู๊ดกล่าว
