ประธานเทคนิค "ฉลามชล" เผยรู้สึกพอใจมากๆ กับแนวทางโครงสร้างการพัฒนาฟุตบอล ที่ การ์เลส รามาโกซ่า อดีตประธานเทคนิคฟุตบอลไทยได้วางรากฐานเอาไว้ แต่ยอมรับว่าเสียดายที่เจ้าตัวหมดสัญญาไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา ชี้ประธานเทคนิคเป็นตำแหน่งที่ต้องใช้เวลาในการทำงานเป็น 8 ปี หรือ 10 ปีขึ้นไปถึงจะเกิดความต่อเนื่อง
การ์เลส รามาโกซ่า ผู้ก่อตั้ง เอคโคโน่ หมดสัญญากับสมาคมฟุตบอลไทย ในตำแหน่งประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค เมื่อปลายเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา โดยตอนนี้ "โค้ชแดง" ทรงยศ กลิ่นศรีสุข โค้ชระดับโปรไลเซ่นและวิทยากรเอเอฟซีทำหน้าที่รักษาการณ์แทนไปก่อนเป็นการชั่วคราว
ด้าน "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งนี้มาก่อน เปิดเผยว่า การ์เลส ได้เข้ามาวางโครงสร้างทั้งระบบของฟุตบอลไทยไว้รอบด้านทั้งการพัฒนาโค้ช, ผู้ตัดสิน, เยาวชน, ฟุตบอลระดับกราสรู้ท, ฟุตบอลทีมชาติชายและหญิง, ฟุตบอลชายหาด รวมถึง ฟุตซอล
ซึ่งในสมัยที่ตนรับตำแหน่งนี้ ได้ทำโครงสร้างหลักๆ ไว้เพียง 2 ส่วนคือ เยาวชน กับ โค้ชเท่านั้น อย่างไรก็ดีโครงสร้างก็คือโครงสร้าง สิ่งที่สำคัญคือการนำโครงสร้างไปปฏิบัติต่อ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาวงการฟุตบอลไทยขาดความเป็น "Go Together" เพื่อที่จะเดินหน้าไปด้วยกัน และเต็มไปด้วยความขัดแย้งที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา
"โค้ชเฮง" เผยต่อไปว่าที่ผ่านมาไม่ค่อยมีคนทราบว่า "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคม ได้จ่ายเงินส่วนตัวไปเป็นจำนวนมาก เพื่อนำมาใช้กับโครงสร้างเหล่านี้ แต่สิ่งสำคัญก็คือการจะพัฒนาโครงสร้างต่างๆ ที่ประธานเทคนิคได้วางไว้ มันต้องใช้เวลา ต้องอดทน และต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ทุกคนนำไปปฏิบัติตาม
โดย "โค้ชเฮง" ยอมรับว่าเสียดายที่ การ์เลส มีเวลาในการทำหน้าที่กับฟุตบอลไทยน้อยเกินไป อย่างไรก็ดีได้ทราบว่ามีประธานเทคนิคชื่อดังชาวต่างชาติมากมายที่เสนอโปรไฟล์เข้ามาให้กับสมาคมฟุตบอลไทย ซึ่งคงต้องดูต่อไปว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่เข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ จะสานต่อแนวทางที่ การ์เลส วางไว้หรือไม่ เพราะในอดีตที่ผ่านมา ฟุตบอลไทยจะมีการยกเครื่องใหม่เสมอ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างการบริหารงานของสมาคมฟุตบอล