TOYOTA Thai League Team Of The Week ประจำสัปดาห์ที่ 7
11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2018 ประจำสัปดาห์ที่ 7
แผนการเล่น : 3-4-3
ผู้รักษาประตู : ปฏิวัติ คำไหม (พัทยา ยูไนเต็ด)
เป็นอีกสัปดาห์ที่ตำแหน่งผู้รักษาประตูมีตัวเลือกที่เหมาะสมหลายคน แต่เราขอเลือก "เจ้าไมค์" ของ พัทยา ยูไนเต็ด ที่โชว์ฟอร์มพระเอกช่วยเซฟลูกง่ายลูกยากได้เยอะจริงๆ อดีตเด็กปั้นของ อัสสัมชัญ ธนบุรี ไม่มีข้อผิดพลาดให้ บางกอกกล๊าส เจ้าถิ่นส่งบอลผ่านมือเขาไปได้เลย
กองหลัง : นาโออากิ อาโอยามะ (เอสซีจี เมืองทองฯ)
ไม่ใช่เกมที่ง่ายสำหรับ "กิเลนผยอง" เลยแม้จะบุกไปชนะ "สวาดแคท" ได้ถึงถิ่นจากฟรีคิกปลิดวิญญาณของ เฮแบร์ตี้ แต่ในเกมรับ "อาโอ" ก็มีบทบาทช่วยทีมเยอะมาก ในฐานะบอสใหญ่ของแผงกองหลังต้องคอยสั่งการและประกบ เปาโล รานเจล กองหน้าตัวเก่งของเจ้าถิ่น ซึ่งเกมนี้ รานเจล แทบไม่มีโอกาสได้ยิงเหน่งๆ เลยเพราะถูกล็อกตายโดยปราการหลังเลือดซามูไรผู้นี้
กองหลัง : อี วอน-ยอง (พัทยา ยูไนเต็ด)
เป็นอีกเกมที่แนวรับของ "โลมาน้ำเงิน" ได้กองหลังชาวเกาหลีใต้ผู้นี้ช่วยเอาไว้ได้เยอะมาก ทั้งลูกกลางอากาศหรือภาคพื้นดิน เก็บกวาดได้หลายจังหวะตลอดทั้งเกม เบื้องหลังชัยชนะเหนือ บางกอกกล๊าส ในเกมนี้ต้องยกเครดิตให้กองหลังกัปตันทีมวัย 37 ปีคนนี้เลย
กองหลัง : ทินกร อสุรินทร์ (สุพรรณบุรี เอฟซี)
นักเตะสารพัดประโยชน์ที่เล่นได้แทบทุกตำแหน่ง เกมนีุ้ถูกจับไปเล่นริมเส้นด้านซ้ายอย่างต่อเนื่อง และโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าชื่นชมทั้งในเกมรับที่ป้องกันเกมบุกของ โปลิศ เทโร ชนิดแทบไม่มีข้อผิดพลาด แถมยังขึ้นมายิงประตูให้ทีมขึ้นนำก่อนครึ่งชั่วโมงแรกของเกมอีกด้วย
เครื่องหมายการค้าของ "เจ้าดิว" คือการอยู่ถูกที่ถูกเวลาในจังหวะสำคัญ และมักจะมีชื่อเป็นคนทำประตูช่วงท้ายเกมอยู่เสมอในซีซั่นก่อนๆ เกมนี้สปอตไลต์ถูกฉายมาที่เขาอย่างเต็มตัวเมื่อเป็นผู้ทำประตูชัยให้ "ตะหานน้ำ" ทีมที่ปลุกปั้นเขามาตั้งแต่แรกเริ่มอาชีพค้าแข้ง จนเขากลายเป็นสัญลักษณ์ประจำทีม ราชนาวี ไปแล้ว
สภาพร่างกายดีขึ้นเรื่อยๆ และพยายามพิสูจน์ตัวเองให้เห็นว่าเขาเหมาะสมกับปลอกแขนผู้นำทีมในเวลานี้ หลังจากถูกปรับบทบาทให้ขยับมาทำเกมรุกมากขึ้น แต่ก็ยังมีจังหวะลงไปช่วยเก็บกวาดในแดนกลางได้หลายครั้ง เกมนี้ "ตังค์" คุมแดนกลางได้อย่างโดดเด่น และเล่นอย่างทุ่มเทจนวินาทีสุดท้าย พร้อมกับช่วยให้ทีมเก็บ 3 แต้มออกจากถิ่น "สวาดแคท" ได้ตามเป้า
กองกลาง : วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (ชลบุรี เอฟซี)
ฟอร์มดีวันดีคืนจริงๆ สำหรับ "เจ้ายิม" ที่รับบทบาทเป็นเพลย์เมกเกอร์ให้กับทีมอย่างเต็มตัว ทั้งสร้างสรรค์โอกาสในเกมรุกและสิ่งที่พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัดคือเวิร์คเรท ที่เจ้าตัวเคยถูกปรามาสมาตลอดว่าเป็นนักเตะสไตล์ขี้เกียจ แต่ตอนนี้ถ้าได้ดูเกมของ "ฉลามชล" จะเห็นว่า "ยิม" เปลี่ยนไปแล้ว ทั้งขยันไล่บอลและจ่ายสั้นยาวให้เพื่อนสวยๆ หลายครั้ง จนกระทั่งกลายเป็นคนทำประตูชัยให้ทีมเก็บ 3 แต้มแรกในบ้านได้สำเร็จ
กองกลาง : ปกรณ์ เปรมภักดิ์ (การท่าเรือ เอฟซี)
สมกับที่ "เซอร์เด็จ" ออกตัวเชียร์ว่าสมควรได้รับโอกาสในทีมชาติไทย และ "บาส" ก็ไม่ทำให้คำเยินยอนั้นต้องสูญเปล่า นัดนี้กลายเป็นฮีโร่ให้กับทีมเมื่อยิงคนเดียว 2 ประตูสุดสวย แถมแอสซิสต์ให้ ดราแกน บอสโควิช อีก 1 ประตู ช่วยให้ "สิงห์เจ้าท่า" เก็บ 3 แต้มเหนือคู่ปรับตลอดกาลอย่าง แอร์ฟอร์ซ ไปอย่างสนุก 3-1
พึ่งพาได้เสมอจริงๆ สำหรับความทุ่มเทเต็มร้อยทุกครั้งที่ลงสนามของ ดิยุฟ บีรัม หัวหอกไอวอรี่โคสต์ ประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมได้อย่างดีเยี่ยม และเหมายิงคนเดียวทั้งสองประตูช่วยให้ "นกใหญ่" บุกมาคว้า 3 แต้มแรกในฤดูกาลได้จากถิ่น สิงห์ สเตเดี้ยม ถือเป็นการยิงตอกหน้าหลายๆ ทีมที่เคยปฏิเสธเขาในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล
กองหน้า : ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
แฮททริคฮีโร่ในเกมที่บุกไปเอาชนะ อุบล ยูเอ็มที คว้า 3 แต้มจากดาร์บี้แมตช์ภาคอีสาน แถมประตู 1-0 ที่ทำได้ยังเป็นการสร้างสถิตินักเตะคนแรกของบุรีรัมย์ ที่ยิงครบ 100 ประตูไปแล้ว พร้อมกับขยับสถิติขึ้นไปนำเดี่ยวตารางดาวซัลโวด้วยจำนวน 10 ประตูจาก 7 นัด ต้องขอยอมรับว่านี่คือกองหน้าที่ครบเครื่องที่สุดคนหนึ่งเท่าที่ฟุตบอลไทยลีกเคยมีมา
เกือบจะสมบูรณ์แบบอยู่แล้วหากลูกจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้ายเขาไม่ยิงพลาดไปซะ แต่ 2 ประตูที่ทำให้ สุโขทัย ในเกมนี้ก็ต้องยอมรับว่า โบนีญ่า เป็นหนึ่งในผู้เล่นแนวรุกที่่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นที่สุดในสัปดาห์นี้ ต้องยอมรับว่าการขาด มาร์ติน เอ็นจีว่า ที่ติดภารกิจรับใช้ทีมชาติ ทำให้ โบนีญ่า ต้องเหนื่อยมากขึ้นเยอะทีเดียว
โค้ช : เดนนิส อมาโต้ (ชัยนาท ฮอร์นบิล)
คงมีน้อยคนนักที่จะคิดไว้ล่วงหน้าว่า ชัยนาท ฮอร์นบิล ที่ยังสะกดคำว่าชนะไม่เป็น จะมาปลดล็อกได้ในเกมบุกเยือนทีมเจ้าบุญทุ่มอย่าง เชียงราย ยูไนเต็ด ในรูปเกมที่เป็นรองทุกหน้าเสื่อ แต่ "นกใหญ่" วางแผนมาเล่นด้วยความรัดกุมและอาศัยจังหวะโต้กลับที่เฉียบขาด จนบุกมายิง 2 ประตูและคว้า 3 แต้มแรกไปครองได้อย่างน่าประทับใจ